9 กันยายน 2565 "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" กล่าวแสดงวิสัยทัศน์จัดประชุดใหญ่วิสามัญ "มาร่วมกันเปลี่ยนประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่ากับพรรคไทยสร้างไทย" ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน พร้อมเชิญชวนประชาชนมาร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่ากับพรรคไทยสร้างไทย โดยขอบคุณพรรคที่ให้ความไว้วางใจ เลือกเป็นผู้นำพรรค ขอให้คำมั่นว่าจะทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถ ขอนำประสบการณ์ 30 ปี มานำทัพไทยสร้างไทย ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้ เพื่อร่วมกันเปลี่ยนประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับคนไทยทุกคน
"เพราะเหนื่อยกันมามากแล้ว ถูกละเลย ถูกทอดทิ้ง ปล่อยให้สู้ปัญหาเพียงลำพัง ขาดการเหลียวแลจากผู้มีอำนาจ นอกจากนี้ 90 ปีประชาธิปไตย ประชาชนยังถูกบั่นทอน และคุกคามสิทธิเสรีภาพ ด้อยค่าประชาธิปไตย ถูกบิดเบือนด้วยอำนาจเงิน อิทธิพลและวาทกรรมต่างๆ กระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือน การคอรัปชั่นเป็นไปอย่างมโหฬาร ไม่มียางอาย เพราะระบบตรวจสอบมาจากอำนาจนิยม ระบบราชการมุ่งรับใช้อำนาจนิยม ประชาชนจึงแทบไม่เหลือตัวตน กระทบถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจ" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ ตนจึงได้ประกาศปลดล็อกอุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาประเทศทั้งปวง โดยเริ่มจากความขัดแย้งทางการเมือง ที่ดำเนินมากว่า 16 ปี เลือกฝั่งหนึ่งก็ติดหล่ม เลือกอีกฝั่งก็ติดล็อก ประเทศไปต่อไม่ได้ ไทยสร้างไทยจึงไม่สามารถปล่อยให้ประเทศเป็นเช่นนี้ได้ จึงต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน ในการสร้างรัฐธรรมนูญของประชาชนเพื่อประชาชน ผลักดันให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่สำคัญที่สุดรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจะต้องมีบทบัญญัติให้คนล้มล้างรัฐธรรมนูญเป็นกบฏ และต้องรับโทษทัณฑ์สูงสุด ที่ย่ำยีอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย
อย่างไรก็ตาม ต่อมาคือการปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการทำมาหากินของประชาชน ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้ร่างกฎหมายพักใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการอนุมัติ อนุญาต รวมถึงโทษอาญาหรือทางปกครองไว้ชั่วคราว 3-5 ปี ประมาณ 1,300 ฉบับ ควบคู่กับการทำกิโยตินกฎหมายเพื่อให้เหลือแต่กฎหมายที่จำเป็น
ส่วนการปลดล็อกที่สาม คือ การเปลี่ยนรัฐราชการให้เป็น รัฐประชาชนให้สำเร็จ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนและส่งเสริมให้ประชาชนในการดำรงชีวิต และการทำมาหากินของประชาชนให้ง่ายขึ้น
สำหรับการปลดล็อกที่สี่ คือ การทุจริตคอรัปชั่นอันเปรียบเสมือนมะเร็งร้าย เป็นรากเหง้าของปัญหา ซึ่งได้ฝังรากลึกไปทุกวงการ โดยเฉพาะนักการเมืองระดับประเทศ นักการเมืองท้องถิ่นราชการและรัฐวิสาหกิจ
คุณหญิงสุดารัตน์ เห็นว่าความจริงใจของผู้นำเป็นปัจจัยสำคัญในการปราบการทุจริตคอรัปชั่น ดังนั้น หากผู้นำมีความใสสะอาดจะสามารถปราบคอรัปชั่นได้ ซึ่งพรรคได้เตรียมโมเดลไว้แล้ว มั่นใจว่าจะเอาตัวคนโกงมาติดคุกได้
ขณะเดียวกัน พรรคจะดูแลคุณภาพชีวิตตั้งแต่เกิดจนแก่ เช่น โครงการ 30 บาทสุขภาพดีถ้วนหน้า เรียนฟรีจบปริญญาตรี ลดเวลาเรียน เพิ่มคุณภาพการศึกษา และโครงการบำนาญประชาชน เพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย พร้อมเชิญชวนคนไทย มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ ลุกขึ้นมาปฏิวัติไม่ยอมจำนนต่ออำนาจเงินอำนาจรัฐ และใช้ความกล้าหาญในการกาพรรคไทยสร้างไทยในทุกเขตเลือกตั้ง