svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

พลิกปูม เปิดเส้นทางการเมือง รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี”

กระแสร้อนเช้าวันนี้ "นิพนธ์ บุญญามณี" ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เหตุผลไม่ต้องการใช้ตำแหน่งกับเวลา การทำหน้าที่รมช. มาขึ้นศาลต่อสู้คดี

"นายนิพนธ์  บุญญามณี"  รมช.มหาดไทย ได้ทำหนังสือถึง "พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา"  นายกรัฐมนตรี  ขอลาออกจากจากตำแหน่ง "รมช.มหาดไทย"   โดยให้เหตุผลไม่ต้องการใช้ตำแหน่ง และเวลาของการทำหน้าที่รัฐมนตรี มาขึ้นศาลต่อสู้คดี

 

สำหรับหนังสือที่ทำถึงนายกรัฐมนตรี ระบุว่า

ตามที่ข้าพเจ้า "นายนิพนธ์ บุญญามณี" ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2562 นั้น  

 

บัดนี้ ข้าพเจ้ามีความประสงค์จะขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 เป็นต้นไป  จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ  

เปิดเส้นทางการเมือง รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี”

ชวนคอข่าว ย้อนทำความรู้จัก ผู้ชายที่ชื่อ นิพนธ์ บุญญามณี พร้อมเส้นทางการก้าวเข้าสู่แวดวงการเมืองไทย 

เปิดเส้นทางการเมือง รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี”

พลิกปูม เปิดเส้นทางการเมือง รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี”

นิพนธ์ บุญญามณี เป็นนักการเมืองและทนายความชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา รองหัวหน้าตามภารกิจ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน รวม 8 สมัย


นิพนธ์ บุญญามณี เกิดวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 ที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เป็นคนไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน เป็นหลานของบุนติ่น แซ่อิ้ว (เอี้ยว) 楊文珍 ซึ่งอพยพมาจากอำเภอเจียวอัน 詔安縣จังหวัดเจียงจิว 漳州府 มณฑลฮกเกี้ยน 福建省 เป็นของบุตรเฉี้ยงและจิ้ว บุญญามณี


นิพนธ์ เข้ารับการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนวัดนาทับ โรงเรียนถนนวิเชียรชม จังหวัดสงขลา ระดับเตรียมอุดมศึกษา จากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จบเนติบัณฑิตไทย (สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา), ระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

เส้นทางการเมือง รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี”

พลิกปูม เปิดเส้นทางการเมือง รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี”

ด้านครอบครัว นิพนธ์ สมรสกับ กัลยา บุญญามณี ปลัดเทศบาลนครสงขลา มีบุตร-ธิดา 3 คน ได้แก่ นิธิยา บุญญามณี สรรเพชญ บุญญามณี และนิธิกร บุญญามณี

ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565 นายนิพนธ์ ได้พระราชทานโล่เกียรติคุณลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ประจำปี 2565 โดย สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

นิพนธ์ บุญญามณี เป็นสมาชิกสภาจังหวัด 2 สมัย (พ.ศ. 2528, พ.ศ. 2533) เป็นประธานสภาจังหวัดสงขลา ต่อมาได้เข้าสู่งานการเมืองระดับชาติโดยการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา และได้รับเลือกตั้งครั้งแรกในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มีนาคม พ.ศ. 2535 หรือ 35/1 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งเรื่อยมารวม 5 สมัย คือ 2535/1, 2535/2, 2538, 2539, 2544 และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ/สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ 3 สมัย (2548, 2550, 2554)[2] รวมทั้งสิ้นเป็น ส.ส. 8 สมัย

นิพนธ์ บุญญามณี ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในปี พ.ศ. 2537 เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ในปี พ.ศ. 2541 และเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 2 ครั้งในปี พ.ศ. 2542 ประจำตัวพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ และ พ.ศ. 2543 ประจำตัวบัญญัติ บรรทัดฐาน
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารพรรคใหม่ หลังการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 แล้ว นิพนธ์มีชื่อว่าอาจจะได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ แต่นิพนธ์ก็ได้ขอถอนตัวออกไป ตำแหน่งจึงตกอยู่ที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ และ นิพนธ์ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการพรรค

ในการประชุมวิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ที่ประชุมได้มีมติเลือก นิพนธ์ เป็นรองเลขาธิการพรรค พร้อมกับ ศุภชัย ศรีหล้า และ นราพัฒน์ แก้วทอง 

ในการทำงานฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลเงาขึ้น ซึ่งนิพนธ์ ได้ทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเงา
นิพนธ์ บุญญามณี เป็นกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ชุดที่นำโดย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค
เขาลาออกจากการเป็น ส.ส. เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) จนกระทั่งเดือนมิถุนายน 2562 เขาได้ลาออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา

เปิดเส้นทางการเมือง รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี”

 

เครื่องราชอิสริยาภรณ์
•    พ.ศ. 2545 –   เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
•    พ.ศ. 2542 –   เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
 

เปิดเส้นทางการเมือง รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี” เปิดเส้นทางการเมือง รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี”

ผู้สื่อข่าวเนชัุ่นออนไลน์ เกาะติดกระแสร้อน 

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายนิพนธ์ บุญญามณี เดินทางมาพร้อมกับนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะทนายความ โดยเดินทางมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภายหลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด และยื่นคำฟ้อง กรณีละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด เป็นจำนวนเงินกว่า 50 ล้านบาท 

ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าได้แจ้งไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และท่านได้ให้กำลังใจแต่ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ซึ่งผลการลาออกก็มีผลวันนี้โดยทันที

รมช. “นิพนธ์ บุญญามณี”

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงลาออก นายนิพนธ์ ระบุว่า

"ตนไม่ต้องการที่จะใช้ตำแหน่งทางการเมืองไปกดดันการทำงานของศาล ยืนยันไม่มีบุคคลใดมากดดันให้ลาออกแต่อย่างใด ซึ่งการลาออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ก็ไม่เกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งในครั้งหน้า เช่นเดียวกับการปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นการหารือภายในกรรมการบริหารพรรค อีกทั้งยังไม่เกี่ยวโยงกับคำตัดสินของศาลว่าจะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งตนก็ตัดสินใจดีแล้ว ยืนยันว่าไม่เสียดาย ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็จะตัดสินใจตามเดิม พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม"

 

 

"ส่วนเหตุผลที่ตนต้องลาออก เนื่องจากไม่อยากใช้เวลาราชการนำมาสู้คดี ขอต่อสู้ให้เต็มที่ และยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะก่อนหน้านี้มีสาเหตุที่ไม่ชำระค่ารถ เนื่องจากทางจังหวัดมีหนังสือแจ้งมาว่า เป็นการฮั้ว แล้วตนจะจ่ายเงินให้พวกฮั้วได้อย่างไร การเดินทางมาศาลครั้งแรกนี้เท่ากับว่า ตนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนจึงต้องลาออก นอกจากไม่อยากเบียดบังเวลาราชการแล้ว ตนก็ไม่อยากใช้ตำแหน่งหน้าที่มาสู้คดี ยืนยันอีกครั้งว่า ที่ผ่านมาตนทำหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน ส่วนทางพรรคจะมีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ยืนยันอีกครั้งว่าที่ผ่านมาตนทำหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน ส่วนทางพรรคจะมีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างไร หลังจากนี้เป็นเรื่องภายในพรรค" นายนิพนธ์ กล่าว