svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ชาติพัฒนา-กล้า"ควบแต่"ไม่รวม"-แค่รอเวลาเตรียมพร้อมสู้เลือกตั้ง

02 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สปอร์ตไลต์การเมืองต้องหันมาสาดส่องไปยัง 2 พรรค คือ ชาติพัฒนาและกล้า ทันที หลัง "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ประธาน ชพน. ได้เปิดตัว "กรณ์ จาติกวณิช" หัวหน้าพรรคกล้า มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคชาติพัฒนา ท่ามกลางคำถามต่างๆ นานา

จากประเด็นที่เกิดขึ้น ทำให้ถูกจับตาว่าเป็นการควบรวมพรรคการเมืองเพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมถูกตั้งคำถาม ทำได้หรือไม่ หลังขันอาสาพาชาติฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะจากมรสุมโควิด-19 กว่า 2 ปี และอีกปัญหา คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น และกระทบกับสยามประเทศให้ได้รับหางเร่นี้ไปด้วย

 

สำหรับการรวมพรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 99 ระบุว่า อายุของสภาผู้แทนราษฎร มีกำหนดคราวละ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง

 

แต่ที่ต้องโฟกัสให้หนัก คือ วรรคสอง บัญญัติว่า ระหว่างอายุของสภาผู้แทนราษฎร จะควบรวมพรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็นส.ส.ไม่ได้ 

 

 

 

สอดรับกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หมวด 9 การควบรวมพรรคการเมือง 

 

ซึ่งได้บัญญัติไว้อยู่ใน  4 มาตราที่เกี่ยวข้อง คือ 

 

-มาตรา 96 ในระหว่างอายุของสภาผู้แทนราษฎร จะมีการควบรวมพรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมิได้

 

-มาตรา 97 การควบรวมพรรคการเมืองให้กระทําได้เฉพาะเป็นการรวมกันเพื่อจัดตั้ง

-มาตรา 98 ในการควบรวมพรรคการเมืองตามมาตรา 97 จะต้องได้รับขอความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของแต่ละพรรคการเมือง เมื่อที่ประชุมใหญ่เห็นชอบให้รวมกันแล้ว ให้หัวหน้าพรรคการเมือง และกรรมการบริหารพรรคการเมืองจํานวนพรรคการเมืองละ 10 คน ประชุมร่วมกันเพื่อดําเนินการ ร่างข้อบังคับของพรรคที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ เมื่อได้ดําเนินการตามวรรคสองแล้ว ให้ดําเนินการจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างสมาชิกของทุกพรรคการเมืองที่จะรวมกัน

 

เพื่อประชุมตั้งพรรคการเมืองตามมาตรา 10 และดําเนินการขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองตามมาตรา 11 การเรียกประชุมตั้งพรรคการเมืองต้อง แจ้งให้สมาชิก ของพรรคการเมืองที่จะรวมกันทราบก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 7 วัน และให้ดําเนินการต่อไป ตามบทบัญญัติว่าด้วยการจัดตั้งพรรคการเมือง

 

-มาตรา 99 เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองตามมาตรา 17 แล้ว ให้คณะกรรมการมีคําสั่งให้พรรคการเมืองเดิมที่รวมเข้ากันเป็นอันสิ้นสุดลง โดยให้สมาชิกพรรคการเมืองเดิม เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ที่จัดตั้งขึ้น และให้บรรดาทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิ และความรับผิด ของพรรคการเมืองเดิมโอนไปเป็นของพรรคการเมืองใหม่ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ในกรณีที่คณะกรรมการมีคําสั่งตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้นายทะเบียนประกาศคําสั่ง การสิ้นสุด และการควบรวมพรรคการเมืองในราชกิจจานุเบกษา

 

เมื่อมาส่องดูจาก 4 มาตราเกี่ยวข้องทั้งหมด คงบอกเบื้องต้นได้เต็มปาก ยังไม่ใช่การควบรวมพรรคการเมืองอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ เนื่องจากติดบ่วงของกฎหมาย

 

แต่หากเป็นการตั้งคำถามว่า เตรียมผนึกกำลังพร้อมสู้เลือกตั้งครั้งหน้า ก็คงไม่เหนือการคาดการณ์เท่าไหร่นัก

 

การเมืองต่อจากนี้ จึงต้องตามติดแทบทุกย่างก้าว เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ บนโลกมายาการเมือง ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงอยู่ได้ตลอดเวลา จากขั้วตรงข้ามก็หันมาเป็นมิตร จากสหายสนิทก็กลายเป็นคนหมางเมิน 

 

 

logoline