"อารี ไกรนรา" โปรยยาหอม "ภูมิใจไทย"ได้เป็นรัฐบาลเลือกตั้งสมัยหน้า

จากรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีราชชื่อพรรคเพื่อชาติ และอดีตแกนนำ นปช. ได้เข้าร่วมในงานเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่ จ.กระบี่ และ จ.พังงา เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา และถูกจับตามองว่า จะมีการย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจในการเลือกตั้งสมัยหน้า หลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปราศรัยเปิดตัว "นายอารี ไกรนรา" บนเวทีอานานา แกรนด์ รีสอร์ท ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา

เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว "นายอารี ไกรนรา" ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ จ.ภูเก็ต ภายหลังการร่วมแถลงข่าวการจัดแข่งขันกอล์ฟ รายการ “Toyota Senior Championship 2022” ของสมาคมกีฬากอล์ฟอาวุโสไทย ที่สนามกอล์ฟ ภูเก็ตคันทรี คลับ ว่า ในสมัยหน้าตัดสินใจแล้วว่า จะเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ด้วยเชื่อว่าการทำงานของพรรคภูมิใจไทยตอบโจทย์ของคนใต้ เนื่องจากตนเองก็เป็นคนใต้ และอยากให้ภาคใต้มีการพัฒนาไปในทางที่สมควรจะเป็น

ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเกษตร และการคมนาคมถนนหนทางต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ โดยเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะทำได้ ส่วนว่าจะอยู่ในส่วนของบัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส.เขต นั้นยังไม่ตัดสินใจว่า อยู่ส่วนไหน แต่จะมองว่าจะทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด

"นายอารี" กล่าวด้วยว่า หากพรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ได้จะช่วยพัฒนาภาคใต้ และเชื่อในสมัยหน้าว่าพรรคภูมิใจไทยก็จะอยู่พรรคร่วมรัฐบาล แม้จะไม่มั่นใจว่าอยู่ส่วนไหน จะอยู่ส่วนหัวหรือพรรคร่วม เพราะภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองกลางๆ ไม่มีความขัดแย้งกับพรรคใด สามารถประสานงานได้ทุกพรรค

โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคฯ น่ารักมาก พูดคุยอย่างเป็นกันเอง และดูแล้วพี่น้องประชาชนใน จ.พังงา และกระบี่ ค่อนข้างชื่นชอบสไตล์อย่างนี้ คือ พูดแบบตรงไปตรงมา พูดแล้วทำ โดยเฉพาะคนไทยจะชอบคนที่พูดจริงทำจริง พูดคำไหนคำนั้น ซึ่งตรงกับลักษณะของหัวหน้าพรรคท่านอนุทิน ชาญวีรกุล จึงคิดว่าน่าจะเข้ากับพี่น้องชาวใต้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการตัดสินในครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเองหลังที่ได้มีการพูดคุยกับแกนนำของพรรคภูมิใจไทย

อย่างไรก็ตาม"นายอารี" ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ว่า ขณะนี้เป็นช่วงปลายสมัย เพราะ 3 ปีกว่าแล้ว จึงใกล้จะเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งแล้ว ทำให้แต่ละพรรคการเมืองมีการลงพื้นที่เตรียมความพร้อมและหาเสียงกันมากขึ้น ขณะที่หลายๆ พรรคก็มีการคัดเลือกตัวผู้สมัครในแต่ละเขตกันบ้างแล้วถึง 80-90%