
8 พฤศจิกายน 2568 หลังจากรัฐสภาสิงคโปร์ผ่านการแก้กฎหมายอาญา โดยระบุให้ผู้ที่ถูกตัดสินว่า มีความผิดฐานฉ้อโกง สมาชิกแก๊ง และผู้จัดหาคน สามารถถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนได้ตั้งแต่ 6-24 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและความผิด
ล่าสุด ได้มีการเผยแพร่ภาพ "ตัวอย่าง" ของการลงโทษผู้กระทำผิดฐานเป็น "ออนไลน์ สแกมเมอร์" (online scammers) หรือ นักต้มตุ๋นทางออนไลน์ ที่แสดงให้เห็น "หุ่นผู้กระทำผิด" ถูกจับมัดและหันหลังให้เจ้าหน้าที่ ที่ใช้หวายหวดลงไปที่ลำตัวอย่างรุนแรงและหนักหน่วง
บทลงโทษนี้ ยังครอบคลุมถึงผู้ที่อำนวยความสะดวกในการฉ้อโกง ด้วยการจัดหาซิมการ์ด และบัญชีม้าด้วย โดยรัฐบาลระบุว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการต่อสู้กับการฉ้อโกง ซึ่งถูกเรียกว่า เป็นอาชญากรรมที่พบมากที่สุดในประเทศ
ซิม แอนน์ ซึ่งดำรงรัฐมนตรีอาวุโสของกระทรวงมหาดไทย และควบรัฐมนตรีอาวุโสประจำกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศ ระบุว่า สิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องสูญเสียเงินไปกว่า 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 900,000 ล้านบาท จากคดีฉ้อโกงราว 190,000 คดี ในช่วงระหว่างปี 2463 ถึงครึ่งปีแรกของปี 2568 และพบว่า ยอดความเสียหายในปี 2567 สูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 70%
ในการนำเสนอร่างกฎหมายก่อนที่จะผ่านเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ซิม แอนน์ กล่าวว่า อาชญากรรมทั้งหมด 60% ในสิงคโปร์เกิดจากสแกมเมอร์ และจะนำโทษ "เฆี่ยนภาคบังคับ" มาใช้สำหรับสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดฐานฉ้อโกง ที่นิยามไว้ว่าเป็น "การหลอกลวงโดยผ่านการสื่อสารทางไกล" รัฐบาลยังเพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินมาตรการต่อเครือข่ายฉ้อโกงที่ปฏิบัติการข้ามภูมิภาค ส่วนผู้ที่ให้ความช่วยเหลือสแกมเมอร์ รวมถึงพวกบัญชีม้า ที่จัดหาบัญชีธนาคารหรือซิมการ์ด อาจถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนสูงถึง 12 ครั้ง
ที่ผ่านมา การลงโทษด้วยการเฆี่ยนด้วยหวาย มักสงวนไว้สำหรับความผิดที่ร้ายแรงกว่า เช่น การข่มขืน การค้ายาเสพติด และการให้กู้ยืมเงินผิดกฎหมาย และใช้กับผู้กระทำความผิดที่เป็นชายอายุต่ำกว่า 50 ปีเท่านั้น และโดยทั่วไปแล้วจะใช้หลังจากการตรวจร่างกายแล้ว
ในปี 2563 รัฐบาลสิงคโปร์ได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่น "สแกม ชิลด์" (Scam Shield) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ยืนยันความถูกต้องของการโทร ข้อความ และเว็บไซต์ ที่น่าสงสัย ทั้งยังเปิดสายด่วนระดับชาติ เพื่อต่อต้านการฉ้อโกงอีกด้วย
ด้านอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ได้เปิดเผยว่า เขาก็เคยถูกฉ้อโกงจากการซื้อสินค้าออนไลน์แล้วไม่ได้รับสินค้าเช่นกัน ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคนทุกกลุ่มในสังคม