“บิ๊กอรรถ” ลั่นโดนหมด “บิ๊ก จ.-บิ๊ก ต.” ย้อนถามละเลยตำรวจเทาตรงไหน?

8 พฤศจิกายน 2568 พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ หรือ “บิ๊กอรรถ” รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะอดีตผู้บัญชาการไซเบอร์ หรือ ตำรวจไซเบอร์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พลตำรวจเอก สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีต รอง ผบ.ตร. ออกมาเปิดข้อมูลโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประเด็นความล้มเหลวในการปราบสแกมเมอร์ และพนันออนไลน์ โดยอ้างข้อมูลมีตำรวจจำนวนมาก รับผลประโยชน์เสียเอง

พลตำรวจโท ไตรรงค์ บอกว่า ข้อกล่าวหาแบบนี้ถือว่า ไม่เป็นธรรมกับองค์กรตำรวจ เพราะที่ผ่านมามีการ กล่าวหานายตำรวจระดับ “ผู้บริหารสูงสุดขององค์กร” ว่าเกี่ยวพันกับเรื่องผิดกฎหมาย ก็มีการสอบสวนดำเนินคดีทั้งหมด ไม่มีละเว้น
 

“ต้องไม่ลืมว่า ไม่ได้มีแต่ บิ๊ก ต.เต่า แต่มี บิ๊ก จ.จานด้วย ฉะนั้นไม่ว่าจะ บิ๊ก จ. หรือ บิ๊ก ต. ก็มีการดำเนินคดีไปเรียบร้อยแล้ว สำนวนทั้งสองฝั่ง ทั้งคดีบิ๊ก จ. และ บิ๊กต. ส่ง ป.ป.ช.หมดแล้ว ไม่ได้มีละเว้น ในส่วนของกลไกตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติเอง ก็มีการไต่สวนชี้มูลไปแล้วทั้งสองบิ๊ก” 
 

ส่วนข้อกล่าวหา “ตำรวจไซเบอร์รับผลประโยชน์เป็นเงินมหาศาล” นั้น พลตำรวจโท ไตรรงค์ ซึ่งเพิ่งย้ายจากตำแหน่งผู้บัญชาการไซเบอร์ บอกว่า ทุกหน่วย ทุกองค์กร มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ในส่วนของคนไม่ดี หากมีพยานหลักฐาน ถูกร้องเรียน หรือแม้แต่ผู้บังคับบัญชาพบเห็นเอง ก็มีการดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาทุกกรณี ไม่มีละเว้น

แม้แต่ตำรวจไซเบอร์ เมื่อมีร้องเรียนมาก็ตรวจสอบเต็มที่ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ ก่อนที่ตนจะย้ายจากตำแหน่งผู้บัญชาการไซเบอร์ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ส่งแมสเสจมาร้องเรียนพฤติกรรมตำรวจไซเบอร์ ระดับสารวัตรรายหนึ่ง เรียกเงินจากเว็บพนัน โดยร่วมมือกับตำรวจอีกหลายหน่วย

ช่วงที่ร้องเรียนมา ตนไปประชุม “อินเตอร์โพล” อยู่ในต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้ละเว้น ได้สั่งการได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันนั้นเลย

พลตำรวจโท ไตรรงค์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยืนยันว่า ข้อกล่าวหาของอดีตตำรวจใหญ่ที่บอกว่า องค์กรตำรวจไม่จริงจังกับการปราบสแกมเมอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ เนื่องจากรับผลประโยชน์เสียเอง แถมไม่มีการตรวจสอบกวาดบ้านตัวเอง ถือว่าไม่เป็นธรรมกับตำรวจ

เพราะหากดูสถิติการลงทัณฑ์วินัยตำรวจ 3 ปีย้อนหลัง พบว่า มีตำรวจโดนลงทัณฑ์ถึง 5 พันกว่านาย  ปลดออก ไล่ออก กว่า 900 นาย  ยศต่ำสุด เป็นนักเรียนตำรวจ  ยศสูงสุด คือ “พลตำรวจเอก” ฉะนั้นจึงไม่มีละเว้น  เฉพาะ 1 ปีที่ผ่านมา สถิติการจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ก็เพิ่มสูงขึ้น ยอดยึดอายัดทรัพย์ก็เพิ่มสูงขึ้น

แต่ต้องขอทำความเข้าใจกับสังคมว่า อาชญากรรมออนไลน์ เป็นคำเรียกรวมๆ  แบ่งออกเป็น 2 แท่งใหญ่ คือ

หนึ่ง เว็บพนันออนไลน์ และแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าผิดกฎหมาย

กลุ่มนี้ ยอดจับกุมเพิ่มขึ้น  คดีสั่งฟ้องเกือบ 100% ทั้งชั้นตำรวจ และอัยการ นี่คือประสิทธิภาพการทำงาน

สอง สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ เราออกหมายจับรายใหญ่ไปแล้ว แต่ยังจับกุมไม่ได้ เพราะน่าจะพำนักอยู่ที่กัมพูชา คือ “ก๊ก อาน” ขณะเดียวกันก็มีการประสานงานกับทางกัมพูชา แม้จะเข้ากัมพูชาไม่ได้เหมือนเกาหลีใต้ แต่ตำรวจไทยก็กดดัน ส่งข้อมูล 60 จุดที่เป็น “ศูนย์หลอกลวงออนไลน์” ไปให้ฝ่ายกัมพูชา และกัมพูชาก็จัดการไปบางศูนย์ ส่งคนไทยกลับมา 200 กว่าคน และมีบางคนที่ไม่ผ่านการคัดกรองว่าเหยื่อ จึงถูกดำเนินคดีอาชญากรข้ามชาติด้วย

ในส่วนของนักการเมือง ที่ผ่านมามีการออกหมายจับและดำเนินคดีพนันออนไลน์ กับนักการเมืองหลายราย ทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น ส่วนสแกมเมอร์ มีการออกหมายจับ “ก๊ก อาน” และเครือข่าย ตลอดจนบอสชาวจีนหลายคน แต่นักการเมืองภายในประเทศยังไม่มีใครโดนออกหมายจับ เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานโยงไปถึง
 

ยันคดี “นักการเมือง ช.” สน.เพชรเกษม มีจริงแน่นอน
 

เมื่อถามถึงคดี “นักการเมือง ช.ช้าง” ที่อ้างว่ามี 3 คดี 3 ท้องที่ คือ สภ.เมืองสงขลา สภ.หาดใหญ่ และ สน.เพชรเกษม แต่ “บิ๊กโจ๊ก” อ้างว่า ชุดจับกุมภายใต้การนำของ พลตำรวจโท ไตรรงค์ กลับคำให้การ ทำให้นักการเมือง ช.ช้าง หลุดคดี และคดีที่ สน.เพชรเกษม ก็ไม่มีจริงนั้น

ประเด็นนี้ พลตำรวจโท ไตรรงค์ บอกว่า คดีที่ สน.เพชรเกษม มีอยู่จริงแน่นอน ไปตรวจสอบที่ สน.ได้เลย ชุดสืบสวนจับกุมไปลงประจำวันเอาไว้เมื่อวันที่ 12 หรือ 12 พ.ค.67 มีพนักงานสอบสวนรับร้องทุกข์ นักการเมือง ช.เอาไว้แล้ว จากการจับกุมเว็บพนัน ชื่อ “สายเปย์”

คดีนี้มีความคืบหน้า กล่าวคือ ทางนครบาลกำลังทำความเห็นทางคดี เพื่อสรุปสำนวนการสอบสวนว่า พยานหลักฐานซ้ำกับคดีที่ สภ.เมืองสงขลา และ สภ.หาดใหญ่ หรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการทำความเห็นทางขึ้นมา ถือเป็นเรื่องข้อกฎหมาย สาเหตุที่ตนทราบ เพราะได้สอบถามไปทาง สน. ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ชี้แจงกลับมา ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานมากพอในการร้องทุกข์กล่าวโทษ “เว็บพนันสายเปย์” แต่ดุลพินิจในการจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน

ส่วนคดีที่ สภ.เมืองสงขลา และ สภ.หาดใหญ่ ทั้งร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน และฟอกเงิน คดียังไม่สิ้นสุด ไม่เสร็จเด็ดขาด ฉะนั้นจะมาสรุปว่ามีการช่วยเหลือกันเพื่อล้มคดีไม่ได้ เรื่องนี้ขอให้สังคมรับฟังอย่างมีสติ เนื่องจากความสัมพันธ์ของชุดจับกุม PCT 4 กับอดีตรอง ผบ.ตร. เคยมีการนำกำลังไปจับกุมกันถึงบ้าน และอดีตรอง ผบ.ตร.ก็ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ฉะนั้นจึงขอให้สังคมพิจารณาให้ดีว่าข้อเท็จจริงเรื่องใดเป็นอย่างไร