
ภาพยนตร์เรื่อง “It was just an accident” ของที่กำกับโดย จาฟาร์ ปานาฮี ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอิหร่าน คว้ารางวัลปาล์มทองคำ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุด ที่งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ของฝรั่งเศสวันสุดท้ายในพิธีปิดเมื่อค่ำวันเสาร์ (24 พฤษภาคม) และผู้ร่วมงานยืนปรบมือให้เกียรตินานหลายนาทีแก่ปานาฮี ที่ต้องโทษจำคุกจากการผลิตภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาวิจารณ์รัฐบาล และบ่อยครั้งต้องถ่ายทำอย่างลับ ๆ และถูกห้ามออกนอกประเทศนานกว่า 15 ปี เขาอยู่ในคุก 7 เดือนจากโทษจำคุก 6 ปี ก่อนได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญเรื่องนี้นำเสนอเรื่องคอร์รัปชันและการใช้ความรุนแรงของรัฐในอิหร่าน โดยปานาฮีได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของตัวเองในเรือนจำ และ It was just an accident เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งชื่อ วาฮิด ที่ลักพาตัวชายอีกคนที่มีขาเทียม ซึ่งเชื่อว่าเป็นคนที่ทรมานเขาในเรือนจำ วาฮิดเสาะหานักโทษคนอื่น ๆ เพื่อยืนยันว่า ชายคนนี้เป็นคนที่ทรมานพวกเขาใช่หรือไม่ แล้วค่อยคิดว่าจัดการอย่างไรกับชายคนนี้ นักวิจารณ์ชื่นชมว่า ปานาฮีถ่ายทอดการแสวงหาความยุติธรรมได้ในเชิงสัญลักษณ์อย่างชาญฉลาด โดยผสมผสานกับตลกร้ายและการบีบคั้นอารมณ์
ปานาฮี กล่าวบนเวทีว่า “ขอให้ละวางความขัดแย้งและปัญหาทั้งหมด เพราะสิ่งสำคัญเวลานี้ คือ ประเทศของเรา และเสรีภาพ” และ “ขอให้เรารวมพลังกัน และจะไม่มีใครมาสั่งเราได้ว่า เราต้องสวมเสื้อผ้าแบบไหน ต้องทำอะไรหรือไม่ทำอะไร” นอกจากนี้ “ภาพยนตร์เป็นสังคม ที่ไม่มีใครมาบอกเราว่า ควรทำอะไร หรือ ไม่ควรทำอะไร”
เทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้จัดขึ้นท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์ที่ตึงเครียดทั้งจากสงครามในยูเครน และฉนวนกาซา และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เสนอขึ้นภาษีภาพยนตร์ที่ผลิตในต่างประเทศ ผู้กำกับภาพยนตร์และนักแสดงรวมกกว่า 900 คน ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกประณามการฆ่าล้างชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
นอกจากนี้งานเทศกาลวันสุดท้ายเกิดปัญหาเล็กน้อย เนื่องจากเกิดไฟดับเมื่อเวลาราว 10.00 น.ของเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นทั่วจังหวัดอาลป์-มาริตีม ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ทำให้บ้านเรือนกว่า 160,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ และส่งผลกระทบถึงเมืองคานส์ด้วย สัญญาณไฟจราจรใช้ไม่ได้ ธุรกิจร้านค้าต้องปิด อินเทอร์เน็ตใช้งานไม่ได้
ต่อมาการจ่ายไฟกลับมาเป็นปกติในเวลา 16.30 น. ตำรวจตรวจสอบพบไฟไหม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยในหมู่บ้านแทงเนอรอง ห่างจากเมืองคานส์ราว 23 กม. และเชื่อว่าเป็นการวางเพลิง แต่ยังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย
ขณะที่การฉายภาพยนตร์ 2 เรื่องในช่วงเช้าต้องหยุดชะงักเกือบ 5 นาที ก่อนที่ผู้จัดหันไปใช้ไช้ระบบไฟสำรอง และสามารถฉายภาพยนตร์และจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงจัดพิธีปิดในช่วงค่ำ ที่มีการประกาศรางวัลสำคัญได้ตามปกติ