หลังมีเสียงระเบิดดังขึ้นในแคชเมียร์ฝั่งที่อินเดียควบคุม วิกรม มีศรี รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย แถลงในเช้ามืดวันอาทิตย์ (11 พฤษภาคม)ว่า ปากีสถานละเมิดการหยุดยิงหลายครั้ง และอินเดียกำลังตอบโต้กลับอย่างเหมาะสม
แต่อีกเพียงครู่เดียวกระทรวงต่างประเทศปากีสถาน แถลงว่า ปากีสถานยังคงยึดมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง แม้ว่ามีการละเมิดหยุดยิงโดยฝ่ายอินเดียในบางพื้นที่
การโจมตีข้ามพรมแดนระหว่างอินเดียและปากีสถานตลอด 4 วัน ที่ผ่านมาเป็นการปะทะกันทางทหารครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยใช้ทั้งขีปนาวุธ ปืนใหญ่ และโดรน และอินเดียเป็นฝ่ายเริ่มเปิดฉาก “ปฏิบัติการซินดูร์” ยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายที่อ้างว่าเป็นฐานของกลุ่มก่อการร้ายทั้งในปากีสถานและแคชเมียร์ฝั่งที่ปากีสถานควบคุม เพื่อตอบโต้เหตุการณ์กราดยิง ที่มีผู้เสียชีวิต 26 คน ในแคชเมียร์ฝั่งอินเดียเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ปากีสถานปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และตอบโต้กลับด้วย “ปฏิบัติการบันยาน มาร์ซูส” ที่โจมตีฐานทัพอินเดีย 6 แห่ง
แต่เมื่อวันเสาร์ (10 พฤษภาคม) ทั้งสองฝ่ายยอมตกลงหยุดยิงโดยให้มีผลทันทีเมื่อเวลา 17.00 น. ตามเวลาอินเดีย หลังมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน และพลเรือนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน เนื่องจากการโจมตีข้ามพรมแดน ที่ทำให้ทั้งโลกกังวลว่าอาจถลำเข้าสู่สงคราม
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศข่าวดีนี้ โดยโพสต์ว่า ภายหลังการการเจรจาไกล่เกลี่ยตลอดคืนโดยสหรัฐฯ ทั้งอินเดียและปากีสถานตกลงหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและมีผลทันที
ข่าวการหยุดยิงสร้างความยินดีแก่ชาวอินเดียและปากีสถานในแคชเมียร์ที่ออกมาเฉลิมฉลองตามท้องถนน และสร้างความโล่งอกแก่นานาชาติ หลังหลายชาติเรียกร้องให้สองฝ่ายถอยจากปากเหวที่เสี่ยงนำไปสู่สงคราม แต่หลังการประกาศเพียงไม่กี่ชั่วโมง มีเสียงระเบิดดังกึกก้องทั้งในแคชเมียร์ฝั่งอินเดียและปากีสถาน
ขณะที่มีรายงานที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิง โดยฝ่ายปากีสถานชื่นชมบทบาทการไกล่เกลี่ยของสหรัฐฯ และกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี มีบทบาทในการเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่ายตลอด 48 ชม.ที่ผ่านมา แต่อินเดีย บอกว่า เป็นการเจรจาโดยตรงระหว่างสองประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า จากประวัตศาสตร์ที่ผ่านมา อินเดียไม่เคยยอมรับว่ามีการไกล่เกลี่ยของนานาชาติในความขัดแย้งและการสู้รบใด ๆ กับปากีสถาน ขณะที่ปากีสถานมักเรียกร้องให้นานาชาติเข้าไกล่เกลี่ยและแสดงความชื่นชม เพราะมองว่าเป็นวิธีเดียวที่จะกดดันให้อินเดียยอมพูดคุยและแก้ไขปัญหาขัดแย้งเรื่องดินแดนพิพาทแคชเมียร์