svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ทรัมป์ลงนามคำสั่งคว่ำบาตรศาล ICC-เริ่มลงโทษอิหร่าน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) โดยกล่าวหาว่า ดำเนินคดีกับอเมริกาและอิสราเอลอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเริ่มบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านโดยพุ่งเป้าธุรกิจน้ำมัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันพฤหัสบดี (6 กุมภาพันธ์)ประกาศคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เป็นครั้งแรก โดยกล่าวหาว่าดำเนินการที่พุ่งเป้าต่อสหรัฐฯ และอิสราเอลที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีมูล และภายใต้มาตรการนี้จะจำกัดด้านการเงินและวีซ่าต่อบุคคลและครอบครัว ที่มีส่วนช่วยในการสอบสวนของ ICC ต่อพลเมืองของสหรัฐฯ หรือชาติพันธมิตร

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ICC ออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลด้วยข้อกล่าวหาก่ออาชญกรรมสงครามในฉนวนกาซา และออกหมายจับผู้บัญชาการของกลุ่มฮามาสด้วย สืบเนื่องจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่นำไปสู่อิสราเอลเปิดฉากสงครามกวาดล้างฮามาสในฉนวนกาซาในวันเดียวกัน สหรัฐฯ วิจารณ์การนำผู้นำประเทศไปเทียบกับผู้นำองค์กรก่อการร้าย

คำสั่งของทรัมป์ระบุด้วยว่า การกระทำของ ICC เมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นการสร้างตัวอย่างที่อันตราย ที่ทำให้ชาวอเมริกันมีความเสี่ยงจากการคุกคาม, การละเมิด และการจับกุม

สหรัฐฯ ไม่ใช่สมาชิกของ ICC และยืนยันไม่ยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICC ต่อเจ้าหน้าที่หรือพลเมืองของสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่ ICC ที่สืบสวนว่า ทหารสหรัฐฯ ก่ออาชญกรรมสงครามในอัฟกานิสถานหรือไม่ แต่มาตรการถูกยกเลิกในสมัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

การลงนามคำสั่งคว่ำบาตร ICC ล่าสุดมีขึ้นหลังจากทรัมป์แถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรี เนทันยาฮูเมื่อวันอังคาร โดยเสนอให้สหรัฐฯ เข้ายึดครองฉนวนกาซา, ย้ายชาวปาเลสไตน์ไปประเทศอื่น ตลอดจนฟื้นฟูและพัฒนาฉนวนกาซาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าเป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง"

ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อิหร่านในวันพฤหัสบดี (6 กุมภาพันธ์) โดยพุ่งเป้าที่บริษัท, เรือสินค้า และบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกคว่ำบาตรในสมัยประธานาธิบดีไบเดน หลังจากทรัมป์เซ็นคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันอังคาร (4 กุมภาพันธ์) ให้เพิ่มมาตรการกดดันต่ออิหร่าน และทบทวนและเพิ่มความเข้มงวดของการคว่ำบาตรเพื่อให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเป็นศูนย์

สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ บอกด้วยว่า รัฐบาลอิหร่านใช้รายได้จากการส่งออกน้ำมันเพื่อสนับสนุนการพัฒนานิวเคลียร์, ผลิตขีปนาวุธและโดรน  รวมไปถึงสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นตัวแทนของอิหร่านในตะวันออกกลาง และสหรัฐฯ ยืนหยัดพุ่งเป้าทำลายความพยายามใด ๆ ของอิหร่าน ที่จะแสวงหาเงินสนับสนุนกิจกรรมเลวร้ายเหล่านี้