กองบัญชาการป้องกันอวกาศแห่งอเมริกาเหนือ หรือ นอราด ของสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า ลูกเรือสามารถเก็บกู้ชิ้นส่วน ซึ่งรวมถึง เซนเซอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของโครงสร้างของบอลลูนจากมหาสมุทรแอตแลนติกในบริเวณที่บอลลูนสอดแนมของจีนถูกยิงตก
ขณะที่สื่อรายงานว่า หนึ่งในวัตถุที่พบ คือ ชิ้นส่วนขนาดใหญ่ราว 30-40 ฟุตของเสาอากาศของบอลลูน
บอลลูนที่เชื่อว่าเป็นบอลลูนสอดแนมถูกเครื่องบินขับไล่ยิงตกนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังบอลลูนลอยอยู่นานนับสัปดาห์เหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ และแคนาดา แต่จีนยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่ใช่บอลลูนสอดแนม และเป็นบอลลูนตรวจสภาพอากาศของพลเรือน ที่พลัดลอยเข้าไปในสหรัฐฯ ด้วยเหตุสุดวิสัย และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยแพร่ภาพนาวิกโยธินสามารถเก็บกู้ซากบอลลูนได้ในวันที่ 5 ก.พ.
หลังจากนั้นกองทัพสหรัฐฯ ยังยิงวัตถุบินลึกลับอีก 3 ลำเหนืออเมริกาเหนือช่วงวันที่ 10-12 ก.พ. รวมถึง วัตถุรูปทรงแปดเหลี่ยม ที่ถูกยิงตกเหนือทะเลสาบฮูรอนเมื่อวันที่ 12 ก.พ. แต่จีนไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุทั้งสาม
ด้านกระทรวงต่างประเทศของจีน เผยสหรัฐฯ เคยส่งบอลลูนที่ลอยระดับสูงเหนือน่านฟ้าของจีนโดยไม่ได้ขออนุญาตจากจีนรวม 10 ครั้งในหนึ่งปีที่ผ่านมา และเรียกสหรัฐฯ ว่า “อาณาจักรการสอดแนมที่ใหญ่ที่สุดในโลก” แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดหรือหลักฐาน
ขณะที่โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุบินได้ที่ถูกยิงตกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาด้วยว่า ไม่มีคนบังคับและดูเหมือนไม่ได้ส่งสัญญาณการสื่อสารใด ๆ และยังไม่มีเหตุผลเจาะจงให้สงสัยว่า เป็นวัตถุที่ใช้สอดแนม แต่ก็ยังไม่อาจตัดความเป็นไปได้ ขณะเดียวกันเขาบอกด้วยว่า เขาไม่คิดว่าชาวอเมริกันควรกังวลเรื่องเอเลียนเกี่ยวเนื่องจากวัตถุบินไม่สามารถระบุได้