ตุรกีเกิดอาฟเตอร์ช็อกกว่า 200 ครั้ง ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งแรก สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือการเกิดอาฟเตอร์ช็อกซึ่งอาจจะมีความรุนแรงใกล้เคียงหรือมากว่าการเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก ล่าสุดสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ออกมาเตือนตุรกีว่า อาจจะต้องเจอกับอาฟเตอร์ช็อกไปอีกหลายสัปดาห์
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ หรือ USGS รายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 200 ครั้ง หลังเกิดแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางการเกิดอยู่ที่ตุรกี โดยวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.0
แม้เมื่อเวลาของการเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกขยายออกไป ความถี่และความรุนแรงของอาฟเตอร์ช็อกที่วัดเป็นแมกนิจูดได้มีแนวโน้มลดลง แต่ก็มีบางช่วงที่กลับขึ้นไปอยู่ในระดับ 5.0-6.0 ขึ้นไป และครั้งที่รุนแรงที่สุดคือ 7.5 ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมต่อโครงสร้างที่เผชิญแผ่นดินไหวครั้งแรก และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทีมค้นหาและกู้ภัยตลอดจนผู้รอดชีวิต
ขอบเขตของการเกิดอาฟเตอร์ช็อกได้ขยายกินพื้นที่กว่า 300 กิโลเมตร ตามแนวรอยเลื่อนที่แยกออกทางตอนใต้ของตุรกี ตั้งแต่ตะวันตกเฉียงใต้ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และทอดยาวจากชายแดนติดกับซีเรีย และเป็นไปได้ว่าอาฟเตอร์ช็อกจะยังต่อไปเนื่องไปอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์
เมื่อปี 2558 หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ที่เนปาล มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้่นต่อเนื่องไปอีก 17 วัน และรุนแรงระดับ 7.3 แต่ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่าโอกาสที่อาฟเตอร์ช็อกจะรุนแรงกว่าแผ่นดินไหวครั้งแรกนั้น มีประมาณ 5%
ความเป็นไปได้นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2562 เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ที่เมืองริดจ์เครสต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรงถึง 7.1 ในอีก 2 วันถัดมา ทำให้ถูกตั้งให้เป็นแผ่นดินไหวหลัก (mainshock) แม้จะเกิดทีหลัง ส่วนแผ่นดินไหวครั้งแรก (6.4) ถูกเรียกว่าแผ่นดินไหวนำ (foreshock) และยิ่งถ้า mainshock มีขนาดใหญ่ ก็จะมี aftershock มากขึ้น ส่วนความรุนแรงที่มีหลายระดับเกิดขึ้นตามแนวรอยเลื่อนของแผ่นดินไหวเดิม รวมถึงรอยเลื่อนที่แตกต่างกันแต่เชื่อมต่อกัน ซึ่งเป็นระบบรอยเลื่อนที่ซับซ้อนเพราะการถูก "บดขยี้" ของเปลือกโลกนั่นเอง
