รองประธานาธิบดี ฟูอัต ออกเตย์ ของตุรกี เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 284 ราย และผู้บาดเจ็บ 2,323 ราย จากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นใกล้เมืองนูร์ดากี จังหวัดกาเซียนเท็ปในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อเวลา 4.10 น. ของวันจันทร์ (6 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น และอาคารบ้านเรือนกว่า 1,700 หลังได้รับความเสียหายใน 10 เมือง และทางการได้ประกาศเตือนภัยพิบัติเป็นระดับ 4 ที่ต้องการความช่วยเหลือจากนานชาติแล้ว
นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขของซีเรีย ประเทศเพื่อนบ้าน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 237 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 639 รายในเมือง อเลปโป, ลาตาเกีย, ฮามา และทาร์ทัส ของซีเรีย สืบเนื่องจากแผ่นดินไหวในตุรกี โดยแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ในแถบชายฝั่งทิศตะวันตกจากจังหวัดลาตาเกียถึงกรุงดามัสกัส และยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ของฝ่ายกบฏในบริเวณชายแดนซีเรียและตุรกี
สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ รายงานว่า แผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.8 แมกนิจูด มีจุดศูนย์กลางห่างจากเมืองนูร์ดากี จังหวัดกาเซียนเท็ปของตุรกีไปทางตะวันออก 23 กม. และลึกลงไปใต้ดิน 24.1 กม. นูร์ดากีอยู่ระหว่างพรมแดนของตุรกี และซีเรีย และแรงสั่นสะเทือนยังรับรู้ได้ในเลบานอน ฉนวนกาซา อิสราเอล และไซปรัส
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนยังคงนอนหลับและไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการอพยพหนีออกจากอาคารบ้านเรือน และคลิปที่แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นสภาพความเสียหาย ที่มีอาคารหลายสิบหลังพังถล่ม และชาวบ้านที่ตื่นตระหนกยืนรวมตวกันอยู่บนท้องถนนท่ามกลางความมืด
ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งค้นหาผู้ประสบภัย โดยมีอาสาสมัครกู้ภัยเกือบ 1,000 คน ถูกส่งจากนครอิสตันบุลไปร่วมปฏิบัติภารกิจค้นหากู้ภัย ขณะที่มีรายงานว่า สภาพอากาศอาจเป็นอุปสรรคต่อภารกิจ เนื่องจากมีรายงานหิมะตกหนักในพื้นที่
สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติตุรกีเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติแล้ว และประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ สั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลประเมินความช่วยเหลือแก่ตุรกีแล้ว และอิสราเอลประกาศพร้อมให้ความช่วยเหลือ
แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นครั้งรุนแรงที่สุดในตุรกีนับตั้งแต่ปี 2482 ที่แผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด คร่าชีวิตประชาชนราว 30,000 ราย แผ่นดินไหวรุนแรงขนาดนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นนัก โดยจะเกิดขึ้นไม่เกิน 5 ครั้ง ในแต่ละปีในพื้นที่ใดก็ตามในโลก ที่ผ่านมาตุรกีเคยประสบแผ่นดินไหว 7.0 แมกนิจูด หรือมากกว่านี้รวม 7 ครั้ง ในช่วง 25 ปี แต่แผ่นดินไหวเมื่อวันจันทร์เป็นครั้งรุนแรงที่สุด