svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

สหรัฐฯ เตรียมยุติสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด 11 พ.ค.

31 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แจ้งต่อสภาคองเกรสว่า รัฐบาลตั้งเป้ายกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 ในวันที่ 11 พ.ค.

สำนักงานการบริหารและงบประมาณ (OMB) ของสหรัฐฯ เผยแพร่แถลงการณ์นโยบายของรัฐบาลที่ระบุว่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากโรคโควิด-19 ที่มีกำหนดหมดอายุในวันที่ 1 มี.ค. และ 11 เม.ย. ตามลำดับ จะได้รับการขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 11 พ.ค. ซึ่งจะเป็นวันสิ้นสุดการบังคับใช้ประกาศทั้งสองฉบับ

  

การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นก่อนสภาผู้แทนราษฎรที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากจะลงมติในวันอังคารต่อร่างกฎหมายที่เสนอโดยรีพับลิกันกำหนดให้ยุติสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในทันที

  

OMB ระบุในแถลงการณ์ว่า “การยุติประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างกะทันหันอาจสร้างความโกลาหลและความไม่แน่นอนในวงกว้างในระบบสาธารณสุข ทั้งในระดับรัฐ โรงพยาบาลและบุคลากรการแพทย์ และที่สำคัญ ประชาชนชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน”

สหรัฐฯ เตรียมยุติสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด 11 พ.ค.

 

แต่ทางการชี้แจงว่า จะใช้เวลาช่วงขยายสถานการณ์ฉุกเฉินในการเปลี่ยนผ่านสู่ขั้นตอนการรับมือโรคโควิด-19  ตามแนวทางปกติ และจะไม่มีการจำกัดพฤติกรรมส่วนบุคคลเพื่อควบคุมการระบาด ไม่บังคับสวมหน้ากากหรือฉีดวัคซีน ไม่ควบคุมการดำเนินงานของโรงเรียนหรือธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือชุดตรวจโควิด-19

   

ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ที่บังคับใช้เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2563 ในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และทรัมป์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติในเดือน มี.ค.  2563 หลังจากนั้นรัฐบาลไบเดนขยายเวลาประกาศทั้งสองฉบับหลายรอบ

  

ภายใต้ประกาศดังกล่าว รัฐบาลสหรัฐฯ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับวัคซีนโควิด-19 การตรวจหาเชื้อ และการรักษาให้กับประชาชน แต่เมื่อประกาศนี้ถูกยกเลิก การบริหารจัดการสิ่งเหล่านี้จะเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานสาธารณสุขในระบบปกติ  และโรงพยาบาลจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนพิเศษสำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19

  

นอกจากนี้มีรายงานว่า ราคาวัคซีนโควิด-19 อาจพุ่งสูงขึ้นเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ หยุดสั่งซื้อ โดยไฟเซอร์ประกาศแล้วว่าจะปรับราคาเพิ่มเป็น 130 ดอลลาร์ต่อโดส

ส่วนสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 1.1 ล้านราย นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในปี 2563 ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงผู้เสียชีวิตเกือบ 3,700 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว

 

ขณะที่ในวันจันทร์ องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า โรคโควิด-19 ยังคงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก แม้คณะที่ปรึกษาของอนามัยโลก พบว่า การระบาดอาจใกล้ถึงจุดเปลี่ยนเกม ที่ระดับภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้นสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

 

logoline