อาจเป็นไปได้ที่ยุทธศาสตร์การทำสงครามตัวแทน ด้วยการใช้ยูเครนเป็น "หมาก" ในการทำศึกกับรัสเซียอาจไม่ได้ผลตามที่ใจหวัง และยิ่งเป็นหมากอย่าง "ยูเครน" ที่ร้องขอไม่หยุด ก็อาจทำให้สหรัฐฯ เริ่มตระหนักแล้วว่า ถ้ายิ่งตามใจก็จะยิ่งเหลิง อีกทั้งยังมีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงรายงานเรื่องความน่าสงสัยในการจัดซื้อจัดจ้างทางทหาร ทั้งที่ประเทศกำลังเผชิญภัยสงคราม และเงินที่ถูกนำไปถลุง ส่วนใหญ่มาจากความช่วยเหลือของนานาชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯ
สหรัฐฯ ทุ่มเงินช่วยเหลือยูเครน ในรูปแบบการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหาร 67,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นของปีงบประมาณ 2022 กับอีก 45,000 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2023 รวมแล้วเป็นเงินมหาศาลถึง 112,000 ล้านดอลลาร์
และในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจส่งรถถังประจัญบาน M1 Abrams จำนวน 31 คันไปให้ยูเครน เพื่อโน้มน้าวให้เยอรมนีตัดสินใจส่งรถถังประจัญบาน Leopard 2 ไปบ้างนั้น ยูริ นิโคลอฟ นักข่าวสืบแนวสืบสวนสอบสวน และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "Nashi Groshi" (เงินของเรา) ได้เปิดโปงในเว็บไซต์ข่าวยูเครน "ZN.UA" กล่าวหากระทรวงกลาโหมว่า มีการจัดซื้อจัดจ้างเสบียงอาหารในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด รวมทั้ง "ไข่" ที่ราคาตามร้านค้าทั่วไป อยู่ที่ฟองละ 7 ฮรีฟเนีย (6 บาท) แต่ในสัญญาราคากลับสูงถึง 16.7 ฮรีฟเนีย (15 บาท) ต่อฟอง แพงกว่าปกติ 2.5 เท่า เช่นเดียวกับมันฝรั่งที่ราคาสูงกว่าราคาขายปลีกมากกว่า 2 เท่า
อาจด้วยเพราะเหตุไบเดน ที่ตั้งใจฟังคำถามผู้สื่อข่าวว่าจะส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ไปให้ยูเครน ที่ต้องการเสริมสมรรถนะในการปกป้องน่านฟ้า หรือว่า ตอบสั้นๆ ว่า "ไม่" ทั้งยังบอกด้วยว่า "ไม่แน่ใจ" เมื่อถูกถามว่า จะไปเยือนกรุงเคียฟของยูเครนหรือไม่ ตอนที่ไปเยือนยุโรปเดือนหน้า ซึ่งตรงกับครบรอบ 1 ปี (24 กุมภาพันธ์) ที่รัสเซียรุกรานยูเครน
แต่ไบเดนกับบรรดาผู้นำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) มีกำหนดประชุมสุดยอดร่วมกันที่ลิธัวเนีย เดือนกรกฎาคม
เว็บไซท์ข่าวการเมือง Politico รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า แทบไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดภายในกระทรวงกลาโหม ที่ผลักดันให้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ไปยูเครน ที่ยังคงใช้เครื่องบินในยุคโซเวียต เพื่อปกป้องน่านฟ้าจากขีปนาวุธและโดรนพิฆาตของรัสเซีย เนื่องจาก F-16 บินได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ทนได้ทุกสภาพอากาศ ทั้งยังตรวจจับอากาศยานที่กำลังบินอยู่ได้อีกด้วย
ในฟากฝั่งการเมืองก็พบว่า เริ่มมีความเห็นต่างในเรื่องการให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น นักการเมืองของพรรครีพับลิกัน ที่หาเสียงเลือกตั้งกลางเทอม เมื่อเดือนที่แล้ว แสดงความเห็นเชิงถกถามกรณีที่สหรัฐฯ เอาเงินมหาศาลไปถมให้ประเทศที่แสนห่างไกล แทนที่จะเสริมความแข็งแกร่งบริเวณพรมแดน และต่อสู้อาชญากรรมในประเทศของตัวเอง โดยเฉพาะภัยจากอาวุธปืน
เมื่อสหรัฐฯ คิดจะเทยูเครนกรณีเครื่องบินขับไล่ ก็เป็นไปได้ว่า ภาระจะไปตกที่บรรดาพันธมิตรในยุโรป ด้วยการเอา F-16 ของประเทศเหล่านี้ไปแทน เช่น เนเธอร์แลนด์ แต่ก็ต้องให้ยูเครนร้องขออย่างเป็นทางการ และได้รับความเห็นชอบจากสหรัฐฯด้วย ขณะที่มีรายงานว่า เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์และเยอรมนี ต่างก็อยู่ในขั้นตอนการ "อัพเกรด" ฝูงบินขับไล่ ด้วยการหันไปใช้ F-35 ซึ่งหมายความว่า จะมีเครื่องบินขับไล่รุ่นเก่าที่ถูกปลดระวางจำนวนมาก และพอที่จะส่งไปช่วยยูเครนได้