svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

รื้อตำนาน "จอมขมังเวทย์เสกเงิน" แห่งอินโดนีเซีย

21 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชายชาวอินโดนีเซียคนหนึ่งอ้างเป็นจอมขมังเวทย์ที่สามารถเสกเงินได้ และใช้เวลาไม่นานก็สามารถดึงดูดสาวกได้หลายหมื่น รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล และแม้จะติดคุกคนก็ยังไม่เลิกศรัทธา

ทนายความและนักธุรกิจชื่อ มูฮัมหมัด อาลี เล่าย้อนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองโปรโบลิงโก จังหวัดชวาตะวันออก เวลาที่ ดิมัส คันเจ็ง (Dimas Kanjeng) ซึ่งตั้งตนเป็นจอมขมังเวทย์จัดพิธีใดก็ตามจะมีคนหลายหมื่นไปเข้าร่วม และเชื่อว่าสาวกของนายคันเจ็งจะมากถึง 23,000 คน 

"ผมหลงเสน่ห์" นายอาลีเล่าถึงความรู้สึกสมัยที่เป็นสาวกของคันเจ็ง ที่เขาบรรยายว่าเป็นคนที่น่าเชื่อ มีอำนาจ และมีเสน่ห์ แต่มันเป็นยิ่งกว่าบุคลิก คันเจ็งที่มีชื่อจริงว่า ทาอัต ปริบาดี อ้างตัวว่ามี "พลังวิเศษ" ในการเรียกเงิน และแสดงให้สาวกได้ประจักษ์ และจากการเล่ากันปากต่อปากเรื่องราวของเขาก็แพร่สะพัดอย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศในปี 2552 

มูฮัมหมัด อาลี

ต่อมาในปี 2555 เขาจดทะเบียนตั้งมูลนิธิอย่างเป็นทางการ ชื่อ "ปาเดโปกัน ดิมัส คันเจ็ง ทาอัต ปริบาดี" (Padepokan Dimas Kanjeng Taat Pribadi) และจากนั้นก็อู้ฟู่ขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเงินและทรัพย์สิน ที่ล้วนแล้วมาจากสาวก ซึ่งมูฮัมหมัด อาลี บอกว่าในเวลาเพียง 2 ปีกว่า นับจากต้นปี 2557 เขาเสียเงินให้คันเจ็งไปกว่า 35,000 ล้านรูเปียห์ (75 ล้านบาท) แต่เขาเป็นแค่หนึ่งในหลายพันคนที่เอาเงินไปถมให้คันเจ็ง 

แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีการพบศพ 2 ศพ ที่พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ส่วนนายคันเจ็งถูกเปิดโปง "ผลงานการฉ้อโกง" และถูกตัดสินจำคุก แต่สาวกจำนวนมากก็ยังคงศรัทธา

รื้อตำนาน \"จอมขมังเวทย์เสกเงิน\" แห่งอินโดนีเซีย

อาห์หมัด ไฟซอล ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ถูกเชิญไปที่ตำหนักของดิมัสเมื่อปี 2553 เพื่อไปทำข่าวการทำพิธีกรรมและการทำการกุศล และดิมัสได้ใช้โอกาสนั้นดึงดูดสาวก แต่ไม่ใช่ว่าจะเข้าได้ง่าย ๆ มีการเข้มงวดด้านการรักษาความปลอดภัย ถ้าไม่ได้รับเชิญก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า การแสดงพลังวิเศษของดิมัสเริ่มด้วยการให้ไฟซอลค้นตัว ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้เอามือไพล่หลัง จากนั้นก็เริ่มเสกเงินที่เริ่มต้นราว 50 ล้านรูเปียห์ ก่อนจะเพิ่มเป็น 100 ล้านรูเปียห์ พอถามว่าเขาทำได้อย่างไร ดิมัสก็บอกว่ามาจากการไปนั่งสมาธิบนภูเขา เขายังอ้างว่ารักษาโรคได้ โดยบาบุล อาริฟันดี ผู้สื่อข่าวในพื้นที่อีกคนหนึ่งบอกว่า มีพิธีกรรมบางอย่างและมีข้อกำหนดที่ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติ แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจก็คือ ดิมัสทำตัวเป็นแม่เหล็กดูดเงินหลายล้านรูเปียห์จากสาวกได้เช่นกัน

รื้อตำนาน \"จอมขมังเวทย์เสกเงิน\" แห่งอินโดนีเซีย

มูฮัมหมัด อาลี เปรียบเทียบว่ามันเหมือนน้ำผึ้งที่ดึงดูดฝูงมด ตัวเขาเองก็ได้รับคำสัญญาว่าเงินจำนวนมากที่เสียไป จะได้กลับคืนมามากกว่าเดิมหลายเท่า ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากจะทุ่มลงไปมากนัก แต่พอได้ยินว่าจะได้คืนและมากกว่าเดิมก็กลายเป็นแรงผลักดัน ให้เขาเอาเงินไปทุ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้กระทั่งขายทรัพย์สินและกู้เงินจากธนาคาร

ดิมัสได้ตอบแทนเขาด้วยกระเป๋าเดินทางหลายใบเป็นหลักประกัน และบอกว่าคือ "เงิน" แต่มันถูกล็อกเอาไว้ ก่อนจะกำชับว่า "ถ้ากระเป๋าถูกเปิดก่อนเวลาอันสมควร คุณจะตาย ตาบอดและเป็นอัมพาต" ...แน่นอนว่ามันทำให้เเขากลัว 

สาวกคนอื่น ๆ ก็โดนขู่แบบเดียวกันแต่ก็ยังหลงเชื่อเพราะความโลภ
บางคนไม่อาจห้ามใจเมื่อเห็นเงินล้าน ๆ รูเปียห์  มูฮัมหมัด อาลี บอกว่าก่อนจะยอมมอบเงินเขาได้ตรวจสอบสถานะทางการเงินของมูลนิธิ และเห็นสเตตเมนต์ของธนาคารต่างประเทศสาขาจาการ์ตา ที่แสดงยอดเงินหลายล้านล้านรูเปียห์ 

รื้อตำนาน \"จอมขมังเวทย์เสกเงิน\" แห่งอินโดนีเซีย

จากนั้นในปี 2557 ก็มีสัญญาณความไม่ชอบมาพากล เมื่ออับดุล กานี ประธานมูลนิธิของดิมัส ได้ไปหาไฟซอลและบอกว่ามีเรื่องจะบอก... ไฟซอลคิดว่า "ถ้าให้ผมเดา ดูเหมือนเขามีบางอย่างที่อยากระบาย แต่ดูเเขาลังเล" ...มีข่าวลือว่าอับดุลเป็นเพื่อนดิมัสตั้งแต่วัยรุ่น 

ไฟซอลได้เริ่มตรวจสอบมูลนิธิ มีข่าวลือเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลก ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ค่อยมีคนอยากแฉเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย แม้แต่อับดุลก็ไม่ยอมมาคุยกับเขาอีก แต่กลับพบว่าครอบครัวอับดุลได้ไปแจ้งความว่า เขาหายตัวไปก่อนพบศพหลังจากนั้นในสภาพศีรษะถูกคลุมด้วยถุงพลาสติก และพันด้วยเทปกาวที่ปิดส่วนของใบหน้าเกือบหมด มือก็ถูกมัด ด้านหลังศีรษะมีรอยถูกทำร้าย ก่อนที่ตำรวจจะบุกไปจับผู้ต้องสงสัยและหนึ่งในนี้เป็นหัวทีมรักษาความปลอดภัย ที่เเป็นสมาชิกหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพอินโดนีเซีย (Kopassus)ด้วย แต่นอกจากอับดุลแล้ว อิสมาอิล ฮิดายาห์ ผู้ประสานงานมูลนิธิและเพื่อนของอับดุลก็หายตัวไปด้วย และก็พบว่า มีชะตากรรมไม่ต่างจากอับดุล เพียงแต่ศพอยู่ในสภาพที่จำแทบไม่ได้ 

รื้อตำนาน \"จอมขมังเวทย์เสกเงิน\" แห่งอินโดนีเซีย

ในที่สุดตำรวจได้สนธิกำลังกับหน่วยเฉพาะกิจติดอาวุธหนักจากกองทัพราว 2,000 นาย เข้าจับกุมดิมัส เนื่องจากมีสาวกหลายพันคนที่ไปรวมตัวอยู่ที่มูลนิธิ ที่พร้อมยอมตายเพื่อดิมัส เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อปี 2559 ส่วนตัวดิมัสไปแอบอยู่ด้านหลังมูนิธิในสนามกีฬา ขณะที่สาวกใช้ไม้ไผ่กับก่อนหินในการต้านทานไม่ให้ตำรวจเข้าไป แต่หลังจากยื้อกันอยู่ 2 ชั่วโมง ดิมัสก็ถูกรวบตัว

รื้อตำนาน \"จอมขมังเวทย์เสกเงิน\" แห่งอินโดนีเซีย

จากวันนั้นถีงวันนี้ตำรวจไม่สามารถบอกได้ว่าดิมัสหลอกลวงเงินสาวกไปจำนวนเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าจะมหาศาลหลายล้านล้านรูเปียห์ และจนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเงินเหล่านี้อยู่ที่ไหนและเหยื่อมีจำนวนเท่าใด แต่เชื่อว่าจะมีตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงรัฐมนตรีและบุคคลในแวดวงธุรกิจและการเมือง และแม้สภาพที่ต้้งของมูลนิธิจะดูรกร้าง แต่ก็ยังมีสาวกราว 300 คน ที่ยังปักหลักรอการกลับไปของเขา 

รื้อตำนาน \"จอมขมังเวทย์เสกเงิน\" แห่งอินโดนีเซีย


Youtube/Harian Surya

logoline