นายรัสเต็ม อูเมรอฟ สมาชิกคณะเจรจากับรัสเซียของยูเครน เปิดเผยต่อสื่อออนไลน์ Daily Beast ว่า รัสเซียอาจเตรียมรุกคืบหน้าครั้งใหม่ และยูเครนกำลังเผชิญภัยคุกคามจากหลายทิศทาง
"รัสเซียกำลังล้อมเราจาก 240 องศา โจมตีจากทะเลดำ, จากเบลารุส และจากภูมิภาคลูฮันสคกับโดเนตสก์"
"พวกเขามาจากทุกทิศทางด้วยการต่อสู้สามแนวทาง อาชญากร, นักรบรับจ้างจากบริษัทคู่สัญญา และกองกำลังปกติ โดยมีเป้าหมายคือเอาอาชญากรของตัวเองมากำจัด กับทดสอบและฝึกนับรบของบริษัทคู่สัญญา"
รัสเซียประกาศชัยชนะในสงครามครั้งแรกที่ดำเนินมานานหลายเดือนในสัปดาห์นี้ โดยอ้างว่าได้ยึด "โซเลนดาร์" เหมืองเกลือในภูมิภาคโดเนตสก์ แต่ยังคงมีข้อโต้แย้งว่า รัสเซียยังคงต้องสู้รบต่อไปเพื่อควบคุมเหมืองหรือไม่ แต่ที่ชัดเจนคือรัสเซียได้ดินแดนด้วยค่าใช้จ่ายที่มหาศาล
ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและการป้องกันประเทศ เชื่อว่ามีการเตรียมการเพื่อการบุกภาคพื้นดินขนานใหญ่ จากการระดมพลเข้าสู่กองทัพมากขึ้น ขณะที่หน่วยทหารกับหน่วยข่าวกรองของยูเครน กำลังติดตามการเคลื่อนไหวของทหารรัสเซียแบบเรียลไทม์ และพบว่ารัสเซียกำลังสร้างเสริมกำลังพลในภูมิภาคซาโปริซเซีย ที่ดูเหมือนเป็นการเตรียมโจมตีจากเมืองคาร์คีฟที่อยู่ทางตะวันออกและซาโปริซเซียที่อยู่ทางใต้ อันเป็นความพยายามยึดเมืองที่มีกองกำลังป้องกันทั้งหมด และพบว่าทหารรัสเซียจำนวน 10-12 นาย ได้เข้าไปในเบลารุส เพื่อเสริมกำลังเข้าไปในลูฮันสก์และโดเนตสก์
ประเด็นการเกณฑ์อาชญากรของตัวเองมากำจัดด้วยการส่งเข้าสู่สมรภูมินั้น ทาง Center of National Resistance ของยูเครนอ้างว่า รัสเซียเกณฑ์ทั้งคนติดยาและติดเหล้าไปเข้าสู่สมรภูมิด้วย เพื่อให้ได้ตามโควตา โดยอ้างการยืนยันจากทหารรัสเซียหลายคนที่ยอมแพ้ให้กับกองกำลัง Resistance Movement บอกว่าเขายังไม่หายจากการติดยาเสพติด ในขณะที่เข้าไปสู้รบในเมืองซาโปริซเซีย และเขาพกยาเสพติดไปด้วยเหมือนพกยารักษาโรค
นอกจากคนที่ติดยาแล้วยังมีคนที่ติดเหล้าอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกเกณฑ์ทหาร ด้านหน่วยข่าวกรองทหารของยูเครนระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กำลังเตรียมสั่งระดมพลรอบที่ 2 ที่รวมถึงการบังคับเกณฑ์คนที่ต้องโทษกับผู้ที่ไร้สัญชาติ นอกเหนือจากคนติดยา โดยใช้กลยุทธ์ขยายการเกณฑ์คนเข้ากองทัพ ซึ่งเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว กองทัพรัสเซียมีบุคลากร 1.35 ล้านคน และคาดว่าจะระดมพลเพิ่มอีก 500,000 นาย ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า