โฆษกสำนักงานการบินพลเรือนเนปาล เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 68 ราย จากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารของสายการบินเยติ แอร์ไลน์ส เที่ยวบินภายในระเทศ ตกในบริเวณหุบเขาแม่น้ำเซติ ใกล้เมืองโพคารา ที่อยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุราว 129 กม. ในเช้าวันอาทิตย์
หน่วยกู้ภัยแจ้งว่า ร่างผู้เสียชีวิต 68 ราย ได้รับการเคลื่อนย้ายออกจากจุดที่เครื่องบินตกแล้ว และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โพคาราได้รับศพ 64 ราย และเตรียมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล
สายการบินระบุว่า เที่ยวบินที่ประสบเหตุมีผู้โดยสาร 68 คน ซึ่งมีเด็กทารก 2 คน และชาวต่างชาติ 15 คน และมีลูกเรือ 4 คน
เครื่องบินรุ่น ATR72 ซึ่งเดินทางออกจากกรุงกาฐมาณฑุไปยังโพคารา ขาดการติดต่อกับสนามบินโพคาราเมื่อเวลาราว 10.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ เพียง 18 นาทีหลังทะยานขึ้นจากสนามบิน และขณะเกิดเหตุท้องฟ้าแจ่มใส และจุดที่เครื่องบินตกอยู่ในหุบเขาระหว่างเนินเขา 2 ลูกใกล้สนามบิน
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแพร่ภาพในบริเวณจุดเกิดเหตุมีกลุ่มควันดำปกคลุมขณะหน่วยกู้ภัยปฏับัติหน้าที่ โดยมีฝูงชนมุงดูรอบซากเครื่องบิน
ชาวบ้านคนหนึ่ง ซึ่งไปถึงจุดเกิดเหตุเพียงไม่กี่นาทีหลังเครื่องบินตก เล่าว่า ซากลำตัวเครื่องบินครึ่งหนึ่งอยู่บนเนินเขา และอีกครึ่งตกลงในหุบเขาแม่น้ำเซติ ส่วนอีกคน บอกว่า เขามองจากหลังคาบ้านเห็นเครื่องบินสั่น โคลงเคลงไปทั้งซ้ายทีขวาที ก่อนหัวเครื่องบินดิ่งลงสู่หุบเขา
เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้เป็นครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ รองจากเครื่องบินของการบินไทยประสบเหตุชนภูเขาทำให้มีผู้เสียชีวิต 113 รายในเดือน ก.ค. 2535 และเครื่องบินของปากีสถาน อินเตอร์แนชันแนล แอร์ไลน์ ชนภูเขาทำให้มีผู้เสียชีวิต 167 รายในเดือน ก.ย. 2535