ศพโควิดล้นเตาเผาในปักกิ่ง-จีนหวั่นระบาด 3 ระลอกในฤดูหนาว

สถานที่จัดพิธีศพและฌาปนกิจศพสำหรับผู้เสียชีวิตที่ติดโควิด-19 ทั่วกรุงปักกิ่งในจีน กำลังเผชิญงานล้นมือ ในขณะที่พนักงานและคนขับรถของสถานที่เหล่านี้ติดโควิดด้วย      

มีรายงานว่า ในบ่ายวันเสาร์มีรถบรรทุกโลงศพเกือบ 30 คันจอดรออยู่ด้านนอกสถานที่จัดพิธีศพและฌาปนกิจศพ ตงเจียว และควันพวยพุ่งจากปล่องเมรุเผาศพหลายเมรุที่มีการฌาปนกิจอยู่  ส่วนพนักงานที่สวมชุดพีพีอีวุ่นกับการลำเลียงศพออกจากรถขึ้นไปบนเมรุ และญาติจำนวนมากเฝ้ารออัฐิของศพผู้เป็นที่รัก

เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง บอกด้วยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.  โดยการผ่อนคลายดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการยกเลิกล็อกดาวน์ในบางเมืองมีขึ้นหลังจากการประท้วงทั่วประเทศเพื่อต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์

ทางการจีนรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. และกรุงปักกิ่งมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 พ.ย.  ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ มีรายงานเพียง 2,097 คนในวันอาทิตย์ แต่ตัวเลขดังกล่าวน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะรัฐบาลลดการตรวจคัดกรองในวงกว้างเมื่อเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้นับจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคในเดือนนี้ จีนขอให้ประชาชนรักษาอาการป่วยเล็กน้อยด้วยตัวเองที่บ้าน เว้นแต่อาการรุนแรงขึ้น ในขณะที่หลายเมืองกำลังเผชิญการระบาดระลอกแรก

ขณะที่อู๋ ซุนหยู ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของจีน เชื่อว่า จีนกำลังเผชิญการระบาดระลอกแรกจากทั้งหมด 3 ระลอก ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในฤดูหนาวนี้ และระลอกนี้จะสิ้นสุดช่วงกลางเดือน ม.ค. ปีหน้า

ส่วนการระบาดระลอก 2 จะเริ่มขึ้นจากการเดินทางครั้งใหญ่ในเดือน ม.ค. ช่วงการหยุดยาวนานหนึ่งสัปดาห์ของเทศกาลตรุษจีน ที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.  โดยปกติประชาชนหลายล้านคนจะเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อกลับไปฉลองเทศกาลกับครอบครัว

และการระบาดระลอก 3 จะเริ่มขึ้นช่วงปลายเดือน ก.พ. จนถึง กลางเดือน มี.ค. เมื่อประชาชนเริ่มกลับเข้าทำงาน หลังการเดินทางช่วงเทศกาลตรุษจีน

แต่นายอู๋ เชื่อว่า อัตราการฉีดวัคซีนในขณะนี้สามารถป้องกันจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงได้ และทำให้จำนวนผู้ปวยรุนแรงลดลง

ปัจจุบัน จีนมีประชากรมากกว่า 90% ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่มีผู้สูงอายุเกิน 80 ปีจำนวนไม่ถึงครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีน 3 โดสแล้ว และรัฐบาลกำลังเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ผู้สูงอายุ โดยมีทั้งการฉีดวัคซีนแบบปกติ และการใช้วัคซีนแบบพ่นทางจมูก และสูดดมทางปาก