ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวหายูเครนว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่สะพานไครเมีย และประณามว่านี่คือ "การก่อการร้าย" ที่ทำลายส่วนหนึ่งของจุดเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างรัสเซียกับดินแดนที่ยึดครอง
“ไม่ต้องสงสัยเลย นี่เป็นการกระทำของการก่อการร้ายที่มุ่งทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง” ปูตินกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ในวิดีโอที่โพสต์บนช่อง Telegram ของเครมลิน
“สิ่งนี้ถูกคิดค้น ดำเนินการ และสั่งโดยหน่วยงานพิเศษของยูเครน”
นอกจากนี้ ปูติน ยังมีกำหนดจะเรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงของประเทศในวันจันทร์นี้ โดยนาย ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียและรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า รัสเซียควรสังหาร “ผู้ก่อการร้าย” ที่ก่อเหตุโจมตีดังกล่าว
“รัสเซียสามารถตอบโต้การก่ออาชญากรรมนี้ได้ด้วยการสังหารผู้ก่อการร้ายสถานเดียวเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ชาวรัสเซียคาดหวัง” เมดเวเดฟ กล่าวกับสำนักข่าว Tass
เหตุการณ์ระเบิดสะพานไครเมีย ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามด้วยอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว รัสเซียได้ผนวกดินแดน 4 แห่งของยูเครนอย่างเป็นทางการ ซึ่งปูตินก็ประกาศหลายครั้งว่า การโจมตีรัสเซียใดๆ อาจกระตุ้นการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์
ด้าน มิคาอิล โพโดลยัค ที่ปรึกษาของประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของปูตินโดยระบุว่า มีรัฐผู้ก่อการร้ายเพียงรัฐเดียว และทั้งโลกรู้ดีว่าคือใคร
“ปูตินกล่าวหายูเครนว่าเป็นผู้ก่อการร้าย?” โพโดลยัค กล่าว “ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยนับตั้งแต่เครื่องบินของรัสเซียยิงจรวด 12 ลูกเข้าไปในย่านที่อยู่อาศัยของ ซาโปริซเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คนและบาดเจ็บมากกว่า 50 คน มีรัฐที่ก่อการร้ายเพียงแห่งเดียวและคนทั้งโลกก็รู้ว่าเป็นใคร”