ปูตินลงนามผนวกดินแดน 4 แห่งในยูเครนเข้ากับรัสเซีย

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวในพิธีประกาศผนวกดินแดนที่ทำเนียบเครมลิน โดยมีแขกหลายร้อยคนเข้าร่วมงานในวันนี้ (30 ก.ย.) ว่า ผลการลงประชามติในดินแดน 4 แห่งของยูเครน ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์, สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์, ซาปอริซเซีย และเคอร์ซอน สะท้อนชัดเจนว่า ประชาชนตัดสินใจเลือกแล้วที่อยากเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

หลังจากนั้นเขาพร้อมกับผู้นำจากดินแดนทั้ง 4 แห่งที่ได้รับแต่งตั้งจากรัสเซีย ร่วมลงนามในเอกสารผนวกดินแดน และทั้งหมดจับมือกันพร้อมกับตะโกนว่า “รัสเซีย รัสเซีย รัสเซีย”

นอกจากนี้ประชาชนชาวรัสเซียออกมาร่วมชมคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองพิธีลงนามผนวกดินแดนที่จัดขึ้นใกล้ทำเนียบเครมลินและจตุรัสแดงอย่างเนืองแน่น

พิธีประกาศผนวกดินแดนทั้ง 4 แห่งที่กองทัพรัสเซียเช้ายึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่มีขึ้นหลังจากมีการลงประชามตินาน  5 วันในดินแดนทั้ง 4 แห่ง และผลปรากฏว่า 99% ของ ผู้ออกเสียงสนับสนุนให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย แต่ทั้งยูเครนและชาติตะวันตก ประณามการจัดประชามติดังกล่าวว่า ไม่มีความชอบธรรมตามกฎหมาย และจัดขึ้นโดยใช้ปืนข่มขู่ให้ประชาชนลงคะแนน

การผนวกดินแดนดังกล่าวจะทำให้สงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อนาน 7 เดือนเลวร้ายยิ่งขึ้น และอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้

ปูตินประกาศในพิธีด้วยว่า รัสเซียมีดินแดนใหม่อีก 4 แห่ง และเรียกร้องให้ยูเครนยุติการเคลื่อนไหวทางทหารใด ๆ และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา รวมถึงเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนในดินแดนทั้ง 4 แห่ง พร้อมกันนี้เขาเตือนด้วยว่า รัสเซียพร้อมใช้กำลังและวิธีทุกอย่างเพื่อปกป้องดินแดน

ยูเครน ประกาศไว้แล้วว่า จะชิงดินแดนที่รัสเซียยึดไปกลับคืนมาทั้งหมด และการตัดสินใจของรัสเซียที่ผนวกดินแดนทั้ง 4 แห่งได้ทำลายโอกาสของการเจรจา

ล่าสุดประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี โต้กลับว่า ยูเครนพร้อมเจรจากับประธานาธิบดีคนใหม่ของรัสเซีย และเขายังโพสต์ในเทเลแกรมเรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต พิจารณาอนุมัติสมาชิกภาพแก่ยูเครนแบบเร่งรัด

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประณามการผนวกดินแดนของรัสเซียว่า ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ เหยียบย่ำกฎบัตรสหประชาชาติ และดูหมิ่นประเทศที่ใฝ่สันติทุกแห่ง รวมทั้งยืนยันว่า สหรัฐฯ จะเคารพพรมแดนของยูเครนที่ได้รับยอมรับจากนานาชาติ และจะสนับสนุนความพยายามของยูเครนเพื่อควบคุมดินแดนของตัวเอง

และคณะมนตรียุโรป ระบุว่า รัสเซียละเมิดอย่างร้ายแรงต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของยูเครนในการมีเอกราช และสหภาพยุโรปจะไม่ยอมรับการผนวกดินแดนที่ผิดกฎหมายนี้ รวมทั้งจะยืนหยัดเคียงข้างยูเครน และจะเพิ่มมาตรการจำกัดต่อรัสเซีย