สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลี รายงานว่า พายุ ”หินหนามหน่อ” ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 11 ของปีนี้เคลื่อนตัวออกจากเมืองอูลซาน เมืองชายฝั่งทางภาคตะวันออกเฉียงใต้มุ่งหน้าสู่ทะเลตะวันออกแล้วเมื่อเวลา 7.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังพัดขึ้นฝั่งที่เมืองเกียวเช ใกล้เมืองปูซานเมื่อเวลา 4.00 น.
พายุทำให้เกิดฝนตกหนักวัดได้เกือบ 1 เมตร ทำให้ถนนเสียหาย เสาไฟฟ้าหักโค่น และบ้านเรือนราว 20,000 หลังประสบไฟฟ้าดับ นอกจากนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 รายและผู้สูญหายอีก 10 ราย ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงผู้สูญหาย 7 รายภายในลานจอดรถชั้นใต้ดินที่ถูกน้ำท่วมของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งและผู้สูญหายในลานจอดรถใต้ดินของอพาร์ตเมนต์อีกแห่งในเมืองโปฮัง ส่วนประชาชน 3,463 คนในพื้นที่เสี่ยงภัยและดินถล่มในจังหวัดคย็องซังใต้ จังหวัดช็อลลาใต้ และเมืองปูซานได้รับการอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ส่วนประชาชนอีกเกือบ 15,000 คนได้รับคำแนะนำให้อพยพ
ขณะที่มีบ้านเรือน 3 หลังในเชจู และจังหวัดคย็องกี และอาคารหลังหนึ่งในเชจูถูกน้ำท่วม และบ้านอีกหลังในเมืองเซจงพังเสียหายเที่ยวบิน 251 เที่ยวถูกยกเลิก เรือ 50 ลำหยุดแล่น และรถไฟ 354 ขบวนงดวิ่งหรือปรับเปลี่ยนการเดินทาง
นอกจากนี้มีรายงานเกิดไฟไหม้ที่โรงงานเหล็ก ปอสโก ในเมืองโปฮัง จังหวัดคย็องซังเหนือเมื่อเวลา 7.30 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยชาวบ้าน เล่าว่าได้ยินเสียงดังและเห็นกลุ่มควันสีดำที่โรงไฟฟ้า ส่วนสาเหตุของไฟไหม้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่บริษัทกำลังตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับพายุไต้ฝุ่นหรือไม่ และโรงงานจะหยุดพักราว 5 ชม.
ขณะนี้พายุเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ทะเล โดยมีความเร็วลม 144 กม./ชม. และจะเข้าใกล้เมืองซัปโปโรของญี่ปุ่นในช่วงเที่ยงคืนวันนี้ และพายุจะอ่อนกำลังลงอีก
ขณะเดียวกันสื่อทางการเกาหลีเหนือ รายงานวันนี้ โดยเผยภาพคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือร่วมระชุมหารือกับคณะทำงานป้องกันภัยพิบัติเมื่อวันอาทิตย์และจันทร์เพื่อรับมือผลกระทบจากพายุ “หินหนามหน่อ” ขึ้นฝั่งในเกาหลีใต้ พร้อมกับกำชับให้ปกป้องชีวิตประชาชน และทางการออกประกาศเตือนภัยฝนตกหนักในเมืองแกซอง ที่อยู่ใกล้พรมแดนติดกับเกาหลีใต้ และอีกบางจังหวัด