ขณะที่ภาครัฐต้องแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยและไม่ได้นายทุนเข้ามาแทรกแซง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “จุดพลิกผันประเทศไทย คิด…สร้างอนาคต” ในพิธีเปิดหลักสูตร WEALTH OF WISDOM: WOW#1 จัดโดย กรุงเทพธุรกิจร่วมกับฐานเศรษฐกิจและพันธมิตร ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ทำให้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐ ยุโรปและจีน มีปัญหาทั้งหมดขณะที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นมี 3 สิ่งที่เราต้องเตรียมรับมือคือ 1.เศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2.การส่งออกชะลอตัว และ 3.การท่องเที่ยวชะลอตัว
โดยขณะนี้เมื่อประเทศไทยไม่สามารถพึ่งพาการเติบโตจากนอกประเทศได้ เราต้องกลับมาพึ่งพาการเติบโตจากในประเทศ ซึ่งเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่เหลืออยู่ต้องแก้ไขให้ดีขึ้น ต้องใช้ให้เหมาะสมเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดยมี 3 เรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ
1. การท่องเที่ยว ต้องกระจายการเติบโตไปในทุกจังหวัด ทำให้รายได้กระจายตัวไปในถึงทุกชุมชน แม้ตอนนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมา 40 ล้านคน แต่ยังกระจุกตัวอยู่ไม่กี่จังหวัด อย่างภาคใต้เห็นชัดเจนสัดส่วน 70% กระจุกตัวอยู่แค่ 3 จังหวัดคือ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกระบี่
2.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับคนไทยและธุรกิจไทยรองรับดิจิทัลอีโคโนมี ซึ่งภาครัฐต้องมีการปรับแก้กฎหมายให้ทันสมัยกับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพดิจิทัลมันนี่ คนไทยทุกคนต้องสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในราคาที่ถูก หากเราทำช้าทุกอย่างก็จะยิ่งล้าหลัง เกิดความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันและความสามารถของประเทศจะถดถอยยิ่งมากขึ้น
3. กลไกการเมืองไทยต้องเป็นประชาธิปไตย ไม่ ต้องใช่คณาธิปไตย ที่มีอภิมหาเศรษฐีหรือนายทุนเข้ามาแทรกแซงการเมืองทำให้การบริหารประเทศผิดทิศผิดทาง ตอนนี้รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือกลับมาให้ได้
ดร.สมคิด ระบุว่า หนึ่งในปัญหาสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศอยู่ที่ “กลไกการเมือง” มองว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย ทุกรัฐบาลสนใจแต่เรื่องคะแนนเสียง มองแค่เรื่องการเลือกตั้ง ถ้ายังเป็นแบบนี้เราจะไปได้อีกซักกี่น้ำ ความสามารถของประเทศก็จะตกลงมาเรื่อยๆ จีดีพีแทบไม่ขยับ ดังนั้นหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ วิธีการบริการจัดการประเทศ ทุกอย่างยังรวมศูนย์ ไม่กระจายอำนาจ ไม่เน้นเทคโนโลยี ไม่เน้นความรู้ การทุจริตคอรัปชันก็จะสูงแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ