svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวสถานการณ์

ทภ.1 เผยปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชาถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง

กองทัพภาคที่ 1 เผย ปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชายิงถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง ส่วนบ้านคลองแผง ถูกยิงต้านหนัก ยังไม่สามารถควบคุมได้เบ็ดเสร็จ

10 ธันวาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว ประจำวัน 10 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. ว่า กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ในปัจจุบัน เป็นวันที่ 3 โดยมีการปฏิบัติใน 5 พื้นที่ ดังนี้
 

พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา : หน่วยเฉพาะกิจที่ 11 เข้าปฏิบัติต่อที่หมาย โดยเมื่อ 9 ธ.ค.68 สามารถยึดและควบคุมพื้นที่ได้บางส่วนนั้น ในวันนี้ถูกต้านทานอย่างหนักจากฝ่ายกัมพูชา โดยเฉพาะอาวุธวิถีโค้ง และจรวดหลายลำกล้อง BM – 21 กว่า 80 นัด ทำให้ไม่สามารถยึดและควบคุมพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์
 

พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง : หน่วยเฉพาะกิจที่ 12  ได้ยึดและควบคุมพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.68 และได้ดำเนินการสถาปนาที่มั่น โดยพัฒนาเป็นจุดต้านทานแข็งแรง ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังมีการตอบโต้ด้วยอาวุธวิถีโค้งเป็นระยะ และในวันนี้ยังได้ระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง BM – 21 จำนวนกว่า 20 นัด ตกในพื้นที่หมู่บ้านและไร่นาประชาชนได้รับความเสียหาย

พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง :  หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 อยู่ระหว่างการเข้าปฏิบัติการต่อที่หมาย โดยฝ่ายกัมพูชามีการต้านทานอย่างหนักด้วยการยิงจากอาวุธชนิดต่างๆ โดยเฉพาะจรวดหลายลำกล้อง BM – 21 เข้ามายังบ้านเรือนที่ชาวกัมพูชาเคยรุกล้ำอาศัยอยู่ รวมถึงในหมู่บ้านและไร่นาประชาชนชาวไทยจนได้รับความเสียหาย ทั้งนี้มีเหตุการณ์การปฏิบัติที่สำคัญ คือ เมื่อเวลา 10.00 น. กกล.บูรพาและกองทัพอากาศไทย ร่วมปฏิบัติการทางอากาศ โดยเครื่องบินโจมตีแบบ F-16 โจมตีเป้าหมายทางทหารฝ่ายกัมพูชา จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ บก.ปชด.503 ตรงข้ามบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
 

พื้นที่บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ : หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 วางกำลังคุ้มครองพื้นที่ มีการปะทะเป็นระยะๆ ด้วยอาวุธปืนเล็ก
 

พื้นที่ อ.คลองหาด : หน่วยเฉพาะกิจที่ 13 วางกำลังคุ้มครองพื้นที่ ซึ่งได้ตรวจพบรถสายพานลำเลียงพล 3 คัน ในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม คาดว่าจะทำการเพิ่มเติมกำลังให้กับหน่วยทางด้านทิศเหนือ จึงใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงขัดขวางการเคลื่อนที่ โดยปัจจุบันยังมีการตรึงกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย 
 

ทภ.1 เผยปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชาถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง

 

สำหรับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 จำนวน 13 นาย รักษา รพ.วัฒนานคร และ รพ.โคกสูง ปัจจุบันทุกนายมีอาการปลอดภัย โดยวันนี้ได้รับรายงานกำลังพลได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 1 นาย คือ จ.ส.อ.รณชัย ทัศกร สังกัด ฉก.11 (หน่วยปกติ ร.9 พัน.3) ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด ขณะเข้าปฏิบัติการตามภารกิจ บริเวณใกล้เคียง จต.34 บ.หนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง มีอาการแน่นหน้าอก ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย ส่งเข้ารับการรักษา รพ.โคกสูง อ.โคกสูง ปัจจุบันอาการปลอดภัย รวมกำลังพลได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น จำนวน 14 นาย
 

นอกจากนี้ จากการที่ฝ่ายกัมพูชามีการใช้ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด รวมถึงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงใส่ฝ่ายเราโดยไม่คำนึงถึงประเภทเป้าหมาย เป็นผลให้บ้านเรือนประชาชน ไร่นา เสาไฟฟ้าและถนน ในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง และ บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต 
 

ทภ.1 เผยปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชาถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง
 

สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ใน 4 อำเภอ ได้มีการอพยพแล้ว จำนวน 180,683 คน คิดเป็นร้อยละ 83 ซึ่งทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 พื้นที่ ได้แก่ อ.เมือง, อ.โคกสูง, อ.วังน้ำเย็น, อ.เขาฉกรรจ์ และ อ.วัฒนานคร มีประชาชนเข้าพักอาศัย รวม 18,030 คน โดยศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 1 (โดย ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.19) จัดตั้งโรงครัวพระราชทานปรุงอาหารแจกจ่าย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว อ.เมือง จ.สระแก้ว
 

โดยในวันนี้ กกล.บูรพา ได้ออกหนังสือแจ้ง เรื่องห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด (19.00 น.- 05.00 น.) ในพื้นที่ 4 อำเภอตามแนวชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อให้การปฏิบัติการทางทหารเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ มีความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ 
 

ทภ.1 เผยปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชาถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง

 

นอกจากนี้ได้รับรายงาน เมื่อเวลา 17.00 น. ชาวกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ เริ่มทยอยเดินทางกลับประเทศ บริเวณด่านถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยผ่านการตรวจสอบเอกสารก่อนเดินทาง ยอดรวมประมาณ 800 คน
 

กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา, ตำรวจตระเวนชายแดน, ทหารพราน, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนฝ่ายปกครองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมและมีกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย และขอยืนยันว่าจะยืนหยัดปฏิบัติงานตามภารกิจ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งนี้ การปฏิบัติการทางทหารจะดำเนินการภายใต้กฎการปะทะและสิทธิในการป้องกันตนเอง จนกว่าภัยคุกคามในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จะยุติเพื่ออธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ 
 

ทภ.1 เผยปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชาถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง
 

กองทัพภาคที่ 2 เผยปะทะ 3 วัน กัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ไทย มากถึง 3,160 นัด ใช้โดรนโจมตี 125 ตัว
 

ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 โดย ศูนย์ปฏิบัติการพื้นที่กองทัพบกที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 10 ธันวาคม 2025 (17.00 น.) สถานการณ์โดยรวมในไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ยังคงมีการปะทะกันทั่วทุกภาคส่วน กองกำลังกัมพูชาได้ใช้การยิงสนับสนุน เข้าไปในดินแดนไทยในหลายแห่งที่สำคัญ สร้างความเสี่ยงให้กับกองกำลังไทยและพลเรือนในท้องถิ่น
 

เขตกองทัพบกที่สองจึงสั่งให้หน่วยปืนใหญ่ของเรา ยิงตำแหน่งที่สนับสนุนการยิงต่างๆ ของศัตรูในทุกพื้นที่ ตามหลักการป้องกันตนเอง ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด และยึดมั่นในกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้กำลังอย่างเคร่งครัด
 

วันนี้ ณ เวลา 15.00 น. กองกำลังกัมพูชาได้ใช้เครื่องยิงจรวด BM-21 หลายตัว 79 ครั้ง ยิงจรวดทั้งหมด 3,160 ตัว ใช้ปืนใหญ่ 122 ครั้ง และใช้โดรนวางระเบิด FPV กับกองกำลังของเรา 63 ครั้ง โดยมีโดรนทั้งหมด 125 ตัว
 

ในพื้นที่ช่องอันม้า กองกำลังกัมพูชาได้ดำเนินการรุกหลายครั้ง ทั้งการใช้การยิงสนับสนุนและการใช้ระเบิดมือ บริเวณช่องอันม้า ฮิลล์ 677 และตลาดช่องอันม้าฝั่งไทย
 

ในเขตพระวิหาร กองกำลังกัมพูชาได้ใช้เครนก่อสร้างเป็นจุดสังเกต ติดตั้งกล้องและอุปกรณ์ตรวจจับด้วยเรดาร์ ส่งผลให้กองทัพไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต วันนี้ กองกำลังของเราจึงมีส่วนร่วมและทำลายเครนก่อสร้างนี้เพื่อที่จะทำลายขีดความสามารถทางทหาร 
 

ทภ.1 เผยปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชาถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง
 

ในเขตปราสาทตาควาย กองกำลังกัมพูชาใช้โดรน FPV kamikaze เป็นจำนวนมาก ทีมโดรนของเราถูกโจมตีโดยโดรนวางระเบิดของศัตรู แต่บุคลากรของเราทุกคนปลอดภัย ฝ่ายตรงข้ามยังเปิดฉากยิงจากภายในโครงสร้างวัด และกองกำลังของเราตอบสนองด้วยการยิงปืนตามสถานการณ์ นอกจากนี้ จรวด BM-21 ได้ลงพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีจรวดตกลงมาประมาณ 20 ตัว 
 

ทภ.1 เผยปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชาถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง
 

ยิ่งไปกว่านั้น กองกำลังกัมพูชาได้ใช้อาวุธกับพื้นที่พลเรือนในฝั่งไทย วันนี้ตรวจพบจรวด BM-21 ตก บริเวณใกล้โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ ระยะทางประมาณ 500 เมตร หลังจากประเมินความเสี่ยงแล้ว เขตกองทัพภาคที่สองออกคำเตือนอย่างเร่งด่วน สั่งอพยพบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยไปยังสถานที่ปลอดภัย 
 

ทภ.1 เผยปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชาถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง
 

ด้วยความพร้อมในการสนับสนุนบุคลากรที่ได้รับบาดเจ็บ หน่วยแพทย์เขตกองทัพบกที่สอง ได้เตรียมความสามารถในการตอบสนองทางการแพทย์ โดยสร้างจุดรักษาที่สามารถให้การดูแลทั้งพลเรือนและทหาร เพื่อช่วยชีวิตในสถานการณ์วิกฤตก่อนที่จะนำส่งไปยังโรงพยาบาลด้านหลัง การอพยพผู้ป่วยเป็นหลักโดยรถพยาบาล และในกรณีของผู้ป่วยวิกฤตได้มีการเตรียมการเพื่อใช้เฮลิคอปเตอร์ทางการแพทย์ (Sky Doctor) เพื่อให้พวกเขาได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด
 

เขตกองทัพบกที่สองจะดำเนินการทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าความปลอดภัย และเพื่อปกป้องอธิปไตยของอาณาจักร ประเทศไทย อย่างเต็มความสามารถ 
 

ทภ.1 เผยปฏิบัติการ 3 ใน 5 พื้นที่ เจอกัมพูชาถล่มด้วย BM-21 ต่อเนื่อง