ทอ.พร้อมทิ้งไข่ลึกเข้าไปในกัมพูชา หากพบตั้งใจโจมตีเป้าหมายในไทย

10 ธันวาคม 2568 พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ตอบคำถามเรื่องการปฏิบัติการเชิงลึก ได้เมื่อไร ว่า ตลอดช่วง 3 วันที่ผ่านมา กองทัพอากาศได้ปฏิบัติการทางอากาศ สนับสนุนกำลังทางบกตลอดแนวชายแดน โดยสนับสนุนกองกำลังสุรนารี และกองกำลังบูรพา ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บัญชาการและควบคุมทางทหาร ศูนย์บังคับและควบคุมอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน คลังอาวุธ คลังเก็บทุ่นระเบิด รวมไปถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของคนไทย เพื่อลดทอนขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติของกำลังกองกำลังฝ่ายไทย 
 

 

ส่วนการปฏิบัติการเชิงลึก เป็นคำถามที่ค่อนข้างจะอ่อนไหว แต่ถ้ามีการพิสูจน์ทราบจากข่าวกรอง หรือข้อมูลใดๆ ว่าฝ่ายกัมพูชายังมีความตั้งใจ ที่จะใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ ในการโจมตีเป้าหมายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่มีความสำคัญต่างๆ
 

กองทัพอากาศก็มีความพร้อม และสามารถที่จะปฏิบัติการเชิงลึก ในการโจมตีเป้าหมายลึกเข้าไปในประเทศกัมพูชาได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ทราบว่า ภัยคุกคามนั้นมีความชัดเจนมากน้อยแค่ไหน ขอให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า กองทัพอากาศสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคาม ที่เป็นภัยต่อเอกราช อธิปไตย ต่อความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชน 
 

 

เมื่อถามว่า การปฏิบัติการทางอากาศ หลายพื้นที่ที่เป็นคาสิโนถูกทำลาย ซึ่งนอกจากพื้นที่ที่แอบบังหน้าเป็นฐานทัพแล้ว ก็เป็นจุดตั้งสแกมเมอร์ด้วย ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหรือไม่ โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า เป้าหมายที่มีการโจมตีหรือมีแผนที่จะโจมตี เป็นการกำหนดเป้าหมายร่วมกันของทั้ง 3 เหล่าทัพ โดยมองผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
 

อีกทั้งมีการกำหนดลำดับความสำคัญของทุกเป้าหมายอย่างชัดเจนว่า เป้าหมายไหนต้องถูกทำลายก่อน เพื่อลดทอนขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจของกัมพูชา ส่วนจะเป็นสแกมเมอร์หรือไม่ ตรงนี้เป็นข้อมูลข่าวกรอง เราทราบดีว่าเขาใช้ที่ไหน อย่างไร ทำอะไรจึงมีการเรียงลำดับความชัดเจน ว่าเป้าหมายไหนควรถูกทำลายก่อน รวมถึงเป้าหมายเชิงรุก และเชิงลึกด้วย ส่วนจะใช้กำลังหรือไม่ ก็อยู่ที่การพิสูจน์ทราบว่าเป็นภัยคุกคามเชิงลึกต่อไทยหรือไม่ ถ้ามั่นใจแล้วก็จะปฏิบัติการทางอากาศตามที่เห็นสมควร 
 

 

ด้าน นาวาเอก นรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ ตอบคำถามกรณีการปฏิบัติการทางอากาศ หลายพื้นที่ที่เป็นคาสิโนถูกทำลาย ซึ่งนอกจากพื้นที่ที่แอบบังหน้าเป็นฐานทัพแล้ว ก็เป็นจุดตั้งสแกมเมอร์ด้วย ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหรือไม่ ว่า ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ จะเป็นตึกที่เคยใช้เป็นคาสิโน แต่ปัจจุบันเป็นตึกร้าง ไม่ได้ถูกใช้เป็นอาคารของสแกมเมอร์ ซึ่งกัมพูชามีการดัดแปลงอาคารด้วยการติดตั้งเสาอากาศควบคุมโดรนโจมตี และเสาอากาศแอนตี้โดรนฝ่ายไทย เราจึงจำเป็นต้องโจมตีนี้เพื่อลดการปฏิบัติการคุกคาม 
 

ทบ.มองกัมพูชาคงไม่ใช้เครื่องยิงจรวด PHL แต่ถ้าใช้ขึ้นมามีมาตรการตอบโต้
 

พลโท สุรศักดิ์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามกรณีกัมพูชาใช้ BM-21 มากขึ้น และขยับเข้าใกล้ไทยมากขึ้น ต้องมีการรับมืออย่างไรว่า เจ้าหน้าที่ได้ฝ่ายไทยได้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชน อพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิง ที่มีอยู่ตามแนวชายแดน อยู่ออกนอกระยะหวังผล หรือระยะยิงของ BM-21 ส่วนการปฏิบัติการทางทหาร ตามฐานปฏิบัติการต่างๆ ได้มีการเน้นย้ำจากผู้บังคับบัญชา ในการระวังป้องกัน และเข้าที่มั่นปลอดภัย 
 

 

ด้าน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงรายละเอียดพื้นที่ ที่สามารถควบคุมได้ 100% แล้วว่า ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว คือบ้านหนองหญ้าแก้ว ส่วนอีก 2 พื้นที่ยังอยู่ในความพยายาม ขณะที่พื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 ที่ควบคุมได้ จะมีพื้นที่ปราสาทคนา ซึ่งมีอยู่ 4 ที่หมาย ขณะนี้ควบคุมได้เพียง 2 ที่หมาย ยังเหลืออีก 2 ที่หมาย ส่วนที่หมายอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างความพยายาม
 

เมื่อถามว่า เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง PHL ของกัมพูชา มีรายงานว่าเข้าพื้นที่จังหวัดกัมปงธม ได้ตรวจพบอะไรเพิ่มหรือไม่ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม แต่โดยหลักทางทหารแล้ว ด้วยสภาพพื้นที่การรบขณะนี้ ไม่น่าจะเหมาะที่จะใช้ เพราะอาจจะมีระยะยิงที่ไกลเกินกว่าระดับความเหมาะสม และที่ผ่านมาก็ไม่เคยใช้ แต่ที่กองทัพภาคที่ 2 พูดถึงก็เพื่อความไม่ประมาท และมีการแจ้งข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งในเชิงป้องกันถ้าเป็นอาวุธยิงระยะไกล  ส่วนใหญ่จะใช้เชิงรับ ต้องหาที่กำบัง แต่ไม่อยากให้เอาเรื่องของ PHL มาเป็นข้อกังวลจนเกินไป และกองทัพภาคที่ 2 จะคอยเฝ้าตรวจตลอดเวลา ซึ่งถ้ามีการใช้ขึ้นมา กองทัพไทยก็มีมาตรการที่จะตอบโต้ แต่ขอไม่บอกจะทำอย่างไร