
13 พฤศจิกายน 2568 อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วม จ.สิงห์บุรี จากเหตุคันดินกั้นน้ำแตก บริเวณวัดปราสาท หมู่ 4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อเย็นวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน
ต่อมาเวลา เวลา 02.30 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 คันดินกั้นน้ำใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา อินทร์บุรี ข้ามแม่น้ำ ฝั่งตะวันตก วัดสำโรง เกิดแตกพังทลายเพิ่มอีก 1จุด ทำให้มวลน้ำไหลทะลักเข้ามาทางโรงพยาบาลอินทร์บุรี และโรงเรียนอินทร์บุรี- วัดโบสถ์
จึงมีการประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่ตำบลอินทร์บุรี หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงและเคลื่อนย้ายพาหนะไปในพื้นที่บนถนนสาย 311 ( สิงห์บุรี- ชัยนาท ) โดยด่วน
นอกจากนี้ นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ถึงนายอำเภอทุกอำเภอ ระบุว่า
ตามที่กรมชลประทาน แจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 16.00 น. ทยอยจากอัตรา 2,800 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 2,900ลบ.ม./วินาที เวลา 02.00 น. ชั่วโมงละ 10 ลบ.ม./วิ โดยประมาณ และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่องนั้น
จากการระบายน้ำที่สูงขึ้นส่งผลกระทบให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบในอำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี และปริมาณน้ำ ไหลข้ามถนนสาย 311 (สิงห์บุรี - ชัยนาท) ลงคลองบรมธาตุ และปริมาณน้ำที่เข้าท่วมพื้นที่ในอำเภอพรหมบุรี ไหลข้ามถนนสาย 309 (สิงห์บุรี - อ่างทอง) ลงคลองบรมธาตุ และอาจมีปริมาณน้ำไหลเข้าพื้นที่ในอำเภอบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน อำเภอท่าช้าง ดังนี้
1.อำเภอบางระจัน ได้แก่ ตำบลแม่ลา ตำบลสิงห์ ตำบลโพชนไก่ ตำบลไม้ดัด ตำบลเชิงกลัด
2.อำเภอค่ายบางระจัน ได้แก่ ตำบลท่าข้าม ตำบลโพสังโฆ
3. อำเภอท่าช้าง ได้แก่ ตำบลพิกุลทอง ตำบลถอนสมอ ตำบลวิหารขาว ตำบลโพประจักษ์
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสิงห์บุรี จึงขอให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ให้อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี ดูแลประชาชนที่อพยพขึ้นมาอยู่บริเวณริมถนนสาย 311 (สิงห์บุรี - ชัยนาท) และถนนสาย 309 (สิงห์บุรี - อ่างทอง) พร้อมทั้งจัดระเบียบเต็นท์พักอาศัยให้อยู่บริเวณริมถนนในทิศทางเดียวกัน เพื่อความปลอดภัย
2. ให้อำเภอบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน และอำเภอท่าช้าง ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบ ให้เตรียมการป้องกันและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนให้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินไว้บนที่สูง พ้นจากระดับน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น และให้ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมพร้อมอพยพในทันทีกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน