
12 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย และคณะ ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม.2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ลงพื้นที่จังหวัดอ่างทอง โดยระหว่างทาง เฮลิคอปเตอร์บินวนดูพื้นที่รับน้ำตั้งแต่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท แล้ววนกลับทางจังหวัดสุพรรณบุรี และเข้าจังหวัดอ่างทอง
จากนั้นเวลา 12.30 น. นายกฯ เดินทางถึงจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ สนามกีฬาโรงเรียนป่าโมกข์วิทยาภูมิ ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม นายศักดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะ สส.อยุธยา เขต 4 และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีต สส.อ่างทอง หลายสมัย
โดยนายกฯ กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงเป็นใยสถานการณ์น้ำท่วม ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่น้อง ด้วยหัวใจเป็นห่วงพ่อแม่พี่น้องจริงๆ ที่ต้องผจญกับความยากลำบาก จากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเราจะไปโทษธรรมชาติอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะเราเป็นรัฐบาล เราต้องมีความรับผิดชอบ ในการที่จะบริหารสถานการณ์ ให้กับพ่อแม่พี่น้องให้ดีที่สุด ตนจึงได้ขอให้นายภราดร ซึ่งเป็น สส.ของชาวอ่างทองในช่วงน้ำท่วม ถ้าไม่จำเป็นให้ทำงานในพื้นที่อ่างทอง ไม่ต้องทิ้งพ่อแม่พี่น้อง ยกเว้นภารกิจสำคัญจริงๆ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ก็ให้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่หลังจากนั้นก็ขอให้รีบกลับมาดูแลแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วม ในจังหวัดอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง ใช้เวลาในพื้นที่ให้มากที่สุด
ตนเข้าใจดีว่า เป็นปัญหาที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นความทุกข์เรื้อรังของพวกเรา ในฐานะที่เป็นคนลุ่มเจ้าพระยาด้วยกันทรัพย์สินต้องเสียหายพี่น้องต้องย้ายของหนีน้ำ ความรู้สึกที่ต้องอยู่ในสภาวะน้ำท่วม สส.ภราดร บอกตนตลอดว่า ตั้งแต่หัวหน้ามาครั้งที่แล้ว พวกตนต้องพยายามทุกวิถีทาง ที่จะทำให้มีการระบายน้ำให้มากที่สุด เสียงสะท้อนจากพี่น้องขอให้มั่นใจว่า เราต้องพยายามหาหนทางช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้อง ทุกหนทางที่จะทำได้ ตนได้ตัดสินใจแล้วว่า ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง
ทั้งนี้ หลายครอบครัวในอ่างทองเป็นเจ้าของพื้นที่ ไร่ นา เสียสละพื้นที่เหล่านี้รับน้ำ สูญเสียโอกาสการผลิตพืชผลทางการเกษตร การทำไร่ทำนา และยังต้องเป็นผู้ที่เสียสละในการรับน้ำ ให้น้ำมาท่วมในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อไม่ให้น้ำเข้าไปกระทบความเสียหายในเขตเมือง ที่จะถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจ และไม่ทำให้จังหวัดอื่นได้ได้รับความเสียหายด้วย ตรงนี้ตนต้องขอขอบคุณทุกท่าน
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนได้หารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตนขอใช้อำนาจการเป็นนายกรัฐมนตรี หาจ่ายเงินทดแทนโอกาสที่พ่อแม่ พี่น้องชาวไร่ชาวนา พื้นที่ไร่นา พืชสวนที่สละเป็นพื้นที่รับน้ำ ตนจะขออนุญาตเอางบประมาณที่ตนกำกับมาดูแลรายเดือน จนกว่าน้ำจะหมดไป ปกติ 2-3 เดือน แต่นี่มัน 4-5 เดือนแล้ว เป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องมาเยียวยาพวกท่า นตนจะให้นายภราดรเร่งนำเสนอเพื่อให้รัฐบาลอนุมัติโดยเร็ว ไม่ได้ให้เฉพาะชาวป่าโมกอ่างทองให้ทุกที่ที่ชาวบ้านเกษตรกร ชาวไร่ชาวนาได้เสียสละพื้นที่ของตนเองให้เป็นพื้นที่รับน้ำ และทำให้ตนเองสูญเสีย โอกาสในการสร้างรายได้ในการผลิตพืชผลทางการเกษตร
ทั้งนี้ เราสั่งการให้หน่วยงานทุกระดับ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทย คลายทุกข์บรรเทาทุกข์ข์ให้พ่อแม่พี่น้องได้สามารถดำรงชีวิตได้ ท่ามกลางช่วงที่เราต้องลำบากกับการคุกคามของภัยธรรมชาติในครั้งนี้ ตนหวังว่าช่วงใกล้ๆ สิ้นเดือน ปริมาณน้ำฝนจะเบาบางลงไปได้ มีการวางแผนร่วมกันทำงานกันเป็นทีมทั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการบริหารจัดการระบายน้ำ เปิด-ปิดประตูระบายน้ำ และจัดการเส้นทางเดินของน้ำ ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด
“สิ่งที่ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านในที่นี้ คือขวัญกำลังใจที่ท่านยังมีอยู่ และอยากให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ ผมเข้าใจดีถึงเสียงบ่น เสียงด่าจากพ่อแม่พี่น้อง เพราะว่าพ่อแม่พี่น้องมีทุกข์ ท่านระบายใส่พวกผมได้เลย พวกเราพร้อมที่จะเป็นที่ที่ให้ท่านได้ระบายความในใจของท่าน ความทุกข์ของท่าน เรารับทราบดี เสียงของทุกท่านดังมาถึงผมหลายครั้ง และเมื่อเช้าที่ผ่านมา ผมได้ลงนามคำสั่งนายกฯ แต่งตั้ง ครม.ให้ดูและพื้นที่จังหวัดเป็นโซนๆ ไปแล้ว เพื่อช่วยเหลือพวกท่านทั้งหลาย พวกเราทุกคนอยู่ที่นี่
วันนี้ขอให้มั่นใจตั้งแต่หัวยันท้าย ทราบดีถึงความลำบาก ผมต้องการให้พี่น้องใช้เดือน ธ.ค.เป็นเดือนที่มีความสุขกับญาติ กลับไปเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องในช่วงเทศกาลปีใหม่ ฉะนั้นในช่วงนี้ผมจะเร่งดำเนินการ ในเรื่องของความช่วยเหลือ ขอให้ความมั่นใจทุกคนมีประสบการณ์ใ นการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมอยู่แล้ว พวกเราไม่ทิ้งกัน และไม่มีคำว่าขาดแคลน คนที่ยังประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลดูแลอย่างเต็ม ในวันอังคารประชุม ครม.เดี๋ยวต้องเร่งเงินช่วยเหลือให้ถึงมือพ่อแม่พี่น้องเร็วที่สุด เรามีความกังวลใจอยู่พวกผมกังวลใจมาก กราบขออภัยด้วยความเคารพ ผมจะพยายามทำให้ทุกอย่าง ไม่ให้มันเกิดขึ้น และถ้ามันเกิดขึ้นต้องไม่รุนแรงแบบนี้
ต่อมา นายกฯ มอบเกียรติบัตรให้จิตอาสาจำนวน 7 ราย ก่อนมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จำนวน 1,500 ชุด และเดินไปยืนดูสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ล่าสุดระดับน้ำอยู่ติดขอบผนังกั้นน้ำแล้ว
จากนั้น เวลา 13.40 น. ที่วัดบันไดช้าง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน กล่าวว่า ดีใจที่ได้เจอทุกคน ถ้าตรงนี้เป็นแม่น้ำลำคลองหนองบึง แล้วได้เห็นพ่อแม่พี่น้องพายเรือมาเจอในวันนี้คงดี แต่ที่หัวเราะไม่ออก เพราะตรงนี้ไม่ใช่แม่น้ำ แต่เป็นถนน เรือกสวนไร่นา บ้านเรือน ซึ่งวันนี้โดนน้ำท่วมเยอะมาก ตนต้องไปวางแผนว่าทำอย่างไร ที่จะไม่ให้น้ำเข้ามาหนักกว่านี้ ช่วงเวลาที่ยังอยู่อย่างน้อยจะช่วยในระยะสั้นให้มากที่สุดก่อน หลังจากนี้จะสั่งรัฐมนตรีภราดร รัฐมนตรีสุรศักดิ์ เร่งหาทางช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่า จะสั่งการจ่ายเป็นเดือนๆให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่พยายามทำตั้งแต่สมัยอยู่กระทรวงมหาดไทย คือพยายามเสนอวิธีการจัดการน้ำท่วม ไม่ให้เดือดร้อนแบบนี้กันทุกๆ ปี และจะเจียดเงินไปทำทางน้ำ เพื่อหาทางบริหารจัดการน้ำ ให้พ่อแม่พี่น้องมากที่สุดในอนาคต ทั้งนี้ ปีหน้าพ่อแม่พี่น้องก็ไปเลือกตั้งแล้ว คงอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 เดือน ซึ่งจะช่วยเหลือเยียวยาไปพลางก่อน สำหรับบ้านเรือนที่น้ำท่วม 3-4 เดือน จะให้นายภราดรไปดูย้อนหลังให้ตั้งแต่วันน้ำท่วม วันนี้ต้องกราบขออภัยจริงๆ ที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ยืนยันว่าจะไม่ทำให้เจตนารมณ์ของพ่อแม่พี่น้องสูญเปล่า มีเท่าไหร่ก็ต้องเอามาทำให้อย่างเต็มที่พร้อมกับจัดการเร่งระบายน้ำให้
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ตอนอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ มองลงมาเห็นพื้นที่ได้ชัดเจน เห็นว่าฝั่งตะวันออกยังมีพื้นที่ ก็จะสั่งการให้เร่งระบายน้ำที่น้ำออกไป เพื่อให้น้ำฝั่งตะวันตกได้ระบายออกไป ส่วน ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็สนิทกันอยู่แล้ว ก็จะเร่งรัดให้เสนอโครงการระบายน้ำทางอ่าวไทย เพื่อเป็นตัวช่วยระบายน้ำเจ้าพระยาออก จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนแบบนี้ พร้อมกับจะเร่งโครงการขอกรมชลประทานหลายโครงการให้แล้วเสร็จ
“ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ต้องกราบขออภัยพ่อแม่พี่น้อง ที่ทำให้ต้องประสบความลำบากยากเย็น ปกติปลายเดือนตุลาคม น้ำจะไปหมดแล้ว ปีนี้ฝนก็ไม่ได้มากขึ้น แต่คงต้องแก้ปัญหาเรื่องการตัดสินใจ ในการระบายน้ำออกไปตามช่องทางต่างๆ ซึ่งต้องไปแก้ไขในส่วนนี้ เพื่อไม่ให้มีความเดือดร้อนอย่างปีนี้อีก เรื่องนี้ขอให้เป็นธุระของพวกผม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้น ตัวแทนชาวบ้านได้เสนอแนะนายกรัฐมนตรี ขอให้ชลประทานระบายน้ำเพิ่มเติม และขอให้บริหารจัดการน้ำให้เข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อใช้ชีวิตตามปกติได้ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รับปากจะทำให้ และจะเพิ่มให้ด้วย คือให้นายภราดร นายสุรศักดิ์ เร่งให้ความช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ให้เสร็จภายในวันอังคารนี้
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีจะมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย ชาวบ้านได้ชมนายกฯว่าตัวจริงหล่อกว่าในทีวี พร้อมอวยพรให้เป็นนายกฯอีกในสมัยหน้า