
2 พฤษภาคม 2568 กรณีศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบ ภาค 3 จังหวัดสุรินทร์ มีคำพิพากษาคดี ที่ ปปช.ยื่นฟ้อง นายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา
กรณีการออกเอกสารสิทธิ์เกี่ยวกับที่ดิน น.ส. 3ก. และออกโฉนดที่ดิน ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มาทำการรังวัดแบ่งแยกและรวมโฉนด ทำให้มีเนื้อที่ดินเพิ่มขึ้น 189 ไร่ จากที่ดินของสนามกอล์ฟเมาน์เท่น ครีก ที่มีเนื้อที่ดินทั้งหมด 2,304 ไร่ ของบริษัทไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) ที่มี นายประยุทธ กรรมการบริหาร เเละเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตเกี่ยวกับการออกโฉนดในเขตที่ดินของรัฐ เป็นเขตป่าสงวนและเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) โดยมิชอบ
โดย พิพากษาลงโทษจำคุก นายประยุทธ มหากิจศิริ จำเลยที่ 6 มีความผิดตาม ป.อาญา ม.149 ประกอบ ม.86 กระทงละ 4 ปี 6 กระทง รวม 24 ปี
ส่วน น.ส.อุษณา มหากิจศิริ (ลูกสาวนายประยุทธฯ) ฐานเป็นผู้มอบอำนาจให้นำชี้ที่ดินข้างเคียง" มีความผิดตาม ป.อาญา ม.149 ประกอบ ม.86 กระทงละ 4 ปี 3 กระทง รวม 12 ปี ในส่วนจำเลยรายอื่นศาลก็สั่งจำคุกทุกราย
โดยภายหลังฟังคำพิพากษา จำเลยทั้ง 6 ที่ถูกจำคุก ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ จากนั้นศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3 มีคำสั่งส่งศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งประกันตัวนั้น
ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยทั้ง 6 ฟังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังเรือนจำกลางสุรินทร์
โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1, 2 , 5 , 8 -10 ในระหว่างอุทธรณ์ กรณีผิดสัญญาประกันให้ปรับคนละ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้จำเลยหลบหนี จึงเห็นสมควรให้จำเลย นำหลักประกันตามจำนวนดังกล่าวมาวางศาล ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันและดำเนินการต่อไป
รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้ง 6 เดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำเลยทั้ง 6 ได้นำหลักประกันมาวางศาลเพิ่มเติม จากหลักประกันเดิมจนครบตามคำสั่งศาลอุทธรณ์แล้ว ศาลได้ออกหมายปล่อยจำเลยทั้งหมดในวันนี้เเล้ว
รายงานระบุว่า สำหรับคดีนี้มีจำเลยทั้งหมด 11 ราย เป็นนิติบุคคล 2 บริษัท ทำให้เหลือจำเลยที่ถูกคำพิพากษาศาลจำคุก 9 ราย โดยมีรายงานว่า มีจำเลยที่เป็นชาวต่างชาติ 1 ราย คนไทย 1 ราย หลบหนีไม่ได้มาฟังคำพิพากษา ศาลได้ออกหมายจับปรับนายประกัน ทำให้เหลือจำเลยที่ถูกหมายจำคุก 7 ราย ซึ่งวานนี้ (1 พ.ค.) ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3 อนุญาตให้ประกันตัว 1 ราย ส่วนอีก 6 รายส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาประกัน จนศาลอุทธรณ์มีคำสั่งลงมาวันนี้ ประกอบด้วย
ทั้งนี้มีรายงานว่า คดีนี้ ศาลฯ มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยทุกราย จากพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีคือ กลุ่มเอกชนได้ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ สอบเขตขยายเนื้อที่ของโฉนดที่ดิน เพื่อนำมาสร้างสนามกอล์ฟ เมาน์เทน ครีก กอล์ฟ แอนด์รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ นครราชสีมา ถือเป็นการร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน
ซึ่งจากการไต่สวนพบว่า กลุ่มเอกชนได้ไปซื้อที่ดินที่ที่มีโฉนด และซื้อที่ดินที่ไม่มีหลักฐาน ก่อนจะนำมา สอบเขตเพื่อนำที่ดินที่ไม่มีหลักฐานนั้นเข้าไปรวมด้วย ที่ดินที่ไม่มีหลักฐาน มีทั้งอยู่ในเขต ส.ป.ก.และเขตป่าสงวนฯ เพื่อนำไปจัดทำสนามกอล์ฟดังกล่าว ถือว่าร่วมกันการกระทำความผิด
1. นายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว โดนลงโทษจำคุก 42 ปี
2. นายเทียมศักดิ์ จินดา อดีตนายช่างรังวัด 7 ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายรังวัด โดนลงโทษจำคุก 30 ปี
3. นายชายธง ณ สงขลา โดนลงโทษจำคุก 4 ปี
4. นายภักดี ภักดีเมฆ อดีตนายช่างสำรวจ ระดับ 6 สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.นครราชสีมา) โดนลงโทษจำคุก 4 ปี
5. นายประทีป แสวงลาภ โดนลงโทษจำคุก 24 ปี
6. บริษัท เลควูดคันทรี่คลับ จำกัด โดนลงโทษปรับ 20,000 บาท
7. บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลสจำกัด (มหาชน) หรือบริษัทโพสโค ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) โดนลงโทษปรับ 60,000 บาท
8. นายฌ็อง ปอล เทเวอรแน็ง สัญชาติฝรั่งเศษ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) โดนลงโทษจำคุก 12 ปี
9. นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ลูกสาวนายประยุทธ มหากิจศิริ โดนลงโทษจำคุก 12 ปี
10.นายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) โดนลงโทษจำคุก 24 ปี
11.นายจิเทนเดอร์ พอล เวอร์มา โดนลงโทษจำคุก 12 ปี แต่ไม่มาฟังคำพิพากษา มีพฤติการณ์หลบหนี ถูกออกหมายจับ
ซึ่งคดีนี้นับเป็นคดีที่ 2 ที่ นายประยุทธ มหากิจศิริ ถูกพิพากษาลงโทษเกี่ยวกับคดีความออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบ ต่อจากคดีออกเอกสารสิทธิ์ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่ และในเขตป่าไม้ถาวร ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เนื้อที่ 66 ไร่เศษ โดยมีการนำที่ดินนอกหลักฐานอันเป็นที่ของรัฐประมาณ 19 ไร่เศษ นำมาจัดทำเป็นเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบ
เรื่องนี้มีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเอกชน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษาตัดสินคดีกล่าวหา อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ กับพวกรวม 11 ราย ซึ่งนายประยุทธฯ ปรากฏชื่อเป็นจำเลยที่ 6 ในฐานะผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด ถูกลงโทษจำคุก 4 ปี แต่ลดโทษให้เหลือ 2 ปี 8 เดือน พร้อมสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดิน ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ทั้งฉบับ ซึ่งเป็นคดีที่สำนักงาน ป.ป.ช. ยื่นฟ้องเองเช่นเดียวกัน
ในขณะที่ข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา ได้รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร นายเทียมศักดิ์ จินดา นายภักดี ภักดีเมฆ นายประยุทธ มหากิจศิริ นายประทีป แสวงลาภ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลสจำกัด (มหาชน) หรือบริษัทโพสโค ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) นายฌ็อง ปอล เทเวอรแน็ง สัญชาติฝรั่งเศษ นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ลูกสาวนายประยุทธ มหากิจศิริ
ปรากฏชื่อถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด คดีกล่าวหาแก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ในการรังวัดสอบเขตที่ดิน ตามหลักฐานโฉนดที่ดินเลขที่ 2186 และ 2192 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยทำการรังวัดนำที่ดินนอกหลักฐาน ซึ่งเป็นที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้ามาร่วมในโฉนดที่ดินที่ขอทำการรังวัดสอบเขตโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อีกหนึ่งคดีด้วย
ขณะที่ นายประยุทธ มหากิจศิริ ยืนยันต่อสาธารณชน ว่า ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ไม่เคยใช้ หรือสนับสนุนผู้ใด เจ้าหน้าที่รัฐคนใด ให้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา การดำเนินการรังวัดที่ดินทุกแปลงที่ซื้อมาโดยชอบด้วยกฎหมาย ได้ดำเนินการไปโดยเจ้าหน้าที่รัฐตามอำนาจหน้าที่ เป็นดุลยพินิจและการดำเนินการโดยอิสระของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ใช้ดุลยพินิจในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของตน โดยยึดถือและปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการทุกประการ
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวอิศรา