
1 พ.ค. 2568 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบ ภาค 3 จังหวัดสุรินทร์ ศาลอ่านคำพิพากษาคดี ที่ ปปช. ยื่นฟ้อง นายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว กับพวก ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดินเเละรังวัดเเละอื่นๆรวม 11 คน ซึ่งมีนายประยุทธ มหากิจศิริ นักธุรกิจชื่อดังจำเลยที่ 10 เเละ น.ส.อุษณา มหากิจศิริ (ลูกสาวนายประยุทธฯ) เป็นจำเลยที่ 9
ในคดีเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์เกี่ยวกับที่ดิน น.ส. 3ก. และออกโฉนดที่ดิน ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มาทำการรังวัดแบ่งแยกและรวมโฉนด ทำให้มีเนื้อที่ดินเพิ่มขึ้น189 ไร่ จากที่ดินของสนามกอล์ฟเมาน์เท่น ครีก ที่มีเนื้อที่ดินทั้งหมด 2,304 ไร่ ของบริษัทไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) ที่มีนายประยุทธ กรรมการบริหาร เเละเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตเกี่ยวกับการออกโฉนดในเขตที่ดินของรัฐ เป็นเขตป่าสงวนและเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) โดยมิชอบ
-นายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
การรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส. 3 ก.) เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 รวม 6 กระทง ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 รวมทั้งสิ้น 7 กระทง
ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการ เสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น จำคุกกระทงละ 6 ปี รวม 36 ปี
ฐานเป็นเจ้า พนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ จำคุก 6 ปี รวมโทษจำคุก 42 ปี
-นายเทียมศักดิ์ จินดา อดีตนายช่างรังวัด 7 ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายรังวัด จำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เรื่องการรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เป็นความผิดฐานผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบ มาตรา 86 รวม 6 กระทง และความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 รวมทั้งสิ้น 7 กระทง
ให้ลงจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น จำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 24 ปี ฐานเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ จำคุก 6 ปีรวมโทษจำคุก 30 ปี
-นายชายธง ณ สงขลา จำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 รวม 2 กระทง ให้จำคุกจำเลยที่ 3 กระทงละ 2 ปี รวม 4 ปี
-นายภักดี ภักดีเมฆ อดีตนายช่างสำรวจ ระดับ 6 สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.นครราชสีมา) จำเลยที่ 4 กระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีแบ่งแยกโฉนดที่ดินเเละการรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) รวม 2 กระทง ให้จำคุกจำเลยที่ 4 กระทงละ 2 ปี รวม 4 ปี
ในส่วนจำเลยที่ 5-11 จะเป็นฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์
-นายประทีป แสวงลาภ จำเลยที่ 5 กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานตามการรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดิน เเละการรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) เป็นความผิดตามประมวลอาญาอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 รวม 6 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 24 ปี
-บริษัท เลควูดคันทรี่คลับ จำกัด จำเลยที่ 6 มีการรังวัดโฉนดที่ดิน เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 รวม 1 กระทง ปรับ 2 หมื่นบาท
-บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลสจำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 7 กรณีแบ่งแยกโฉนดที่ดิน , การรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 รวม 3 กระทง จำเลยที 7 ปรับ 6 หมื่นบาท
-นายฌ็อง ปอล เทเวอรแน็ง สัญชาติฝรั่งเศส กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 8 กรณีแบ่งแยกโฉนดที่ดิน , การรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.), การรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดิน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 รวม 3 กระทง จำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 12 ปี
-น.ส.อุษณา มหากิจศิริ ลูกสาวนายประยุทธ มหากิจศิริ จำเลยที่ 9 การรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดิน , การรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดิน รวม 3 กระทง จำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 12 ปี
-นายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 10 การรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ) , การรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดิน , กรณีแบ่งแยกโฉนดที่ดิน อันเป็นความผิดฐานผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86รวม 6 กระทง จำคุกกระทงละ 4 ปี รวม 24 ปี
นายจิเทนเดอร์ พอล เวอร์มา จำเลยที่ 11 กรณีแบ่งแยกโฉนดที่ดิน , การรังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3ก.) , การรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดินอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 รวม 3 กระทง จำคุกกกระทงละ 4 ปี รวม 12 ปี (จำเลยรายนี้หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลออกหมายจับปรับนายประกัน)
กับให้เพิกถอนโฉนดที่ดินในหลายพื้นที่ที่กระทำความผิดกับให้ริบเงิน 3.7 ล้าน ตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 83 ประกอบมาตรา 93 โดยให้นับโทษจำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 10 ต่อจากโทษจำคุกคดีอาญาแดงที่ 85/2565 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 8 ที่ให้จำคุก นายประยุทธ จำเลยที่ 10 คดีสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐออกเอกสารสิทธิพื้นที่ ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ เนื้อที่ 85 ไร่ 2 ปี 8 เดือน
ส่วนคำขออื่นให้ยก