24 มกราคม 2568 จากกรณีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งโพสต์คลิปขณะชายใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งมาเฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้เสียหาย ก่อนจะใช้หมวกกันน็อก มือ และเท้าทุบกระจกรถจนแตก โดยเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณปากซอยเจริญกรุง 77 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ช่วงบ่ายวันที่ 22 มกราคม
ผู้เสียหาย 2 ราย ระบุว่า ถูกพุ่งเข้ามาทำร้าย แต่โชคดีที่พลเมืองดีช่วยดึงตัวชายคนดังกล่าวออกไปจากตัวรถ แต่ทั้ง2 ได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจก จึงได้แจ้งความในข้อหาทำให้เสียทรัพย์และทำร้ายร่างกาย
ล่าสุดวันนี้ (24 ม.ค.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี หรือ สคช.เปิดเผยหลังได้ทราบข่าวเเละดูคลิปดังกล่าวว่า ถือเป็นการบังอาจท้าทายกฎหมายกลางถนน ใช้กำลังข่มขู่คุกคาม ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ ใครเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ก็คง เรียกว่าอันธพาลกลางถนน ถือเป็นภัยสังคมไทยอย่างร้ายแรงพลเมืองดีห้ามก็ยังไม่ยอมหยุดกร่าง
ตนขอขอบคุณคนดีที่เข้าช่วยระงับเหตุการณ์ทุกคน มาช่วยกันเป็นคนดีที่ไม่เพิกเฉยต่อเหตุร้ายและความรุนแรงกัน ขอให้มองทุกคนในสังคมเดียวกับเราให้เหมือนญาติพี่น้อง และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบถ้วนตามพฤติกรรมที่ได้ทำความผิดท้าทายกฎหมายบ้านเมือง และขอให้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ถ้าหัวร้อนควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้อย่าขับรถเลย หรือถ้าบ้าก็เอาตัวไปรักษาเถอะ เพราะคุณและครอบครัวคุณจะเดือดร้อนตามมา
พวกหัวร้อนก็มักจะหาว่าสังคมไม่ยุติธรรมกฎหมายไม่ยุติธรรม โดยไม่มองตนเองเลยว่านิสัยเป็นเช่นไร เกิดเหตุผิดกฎหมายไม่ถูกต้อง ให้แจ้งความดำเนินคดีเท่านั้น ไม่ใช่ใช้กำลังเอาคืนกันกลางถนน กฎหมายไม่อนุญาตให้ทำร้าย หรือทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น ควรต้องลงโทษสถานหนักสุดเท่าที่กฎหมายบัญญัติไว้ ช่วยกันคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชนด้วยกฎหมาย ต่อต้านการใช้กำลัง ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ สายด่วนปรึกษาอัยการฟรีโทร 1157 ช่วยกันคืนสังคมไทยที่ปลอดภัย ให้คนไทย ด้วยกัน
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 358 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 397 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามหรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญโดยเป็นการกระทำในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ชมคลิปต้นเรื่อง