
กลางดึกที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุ เรือสปีดโบ๊ท ขนาด 14 ฟุต ล่มบริเวณปะการังเทียม ใกล้เคียงลานหินสีชมพู หลังรับแจ้งจึงระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และวางแผนการค้นหา ทั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้เตรียมอุปกรณ์ลงเรือ พบว่า ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ได้เกิดพายุบริเวณกลางทะเล ทำให้ไม่สามารถออกตรวจสอบ หรือช่วยเหลือได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฯ ได้รับแจ้งจากเรือประมง ที่กำลังวิ่งกลับเข้าฝั่ง โดยมีการวิทยุแจ้งว่า พบเรือลำดังกล่าวกำลังอับปางอยู่กลางทะเล โดยเมื่อตรวจสอบแล้ว ไม่พบคนขับ และลูกเรือ ดังนั้น จึงได้มีการประสานให้มีการส่งพิกัดจุดที่พบให้กับทีมงานกู้ภัย เพื่อที่จะดำเนินการช่วยเหลือได้ตามพิกัดที่ได้ระบุไว้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางทีมเรือกู้ภัย พร้อมด้วยชุดประดาน้ำ สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจังหวัดจันทบุรี ได้นำเรือกู้ชีพออกค้นหา ในบริเวณจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้าน และสปีดโบ๊ทของนายเฉลิมพล ศักดิ์คำ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองท่าช้าง ให้การสนับสนุนในการค้นหาครั้งนี้อีกด้วย เบื้องต้นใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทางเรือของนายเฉลิมพลฯ จึงได้กู้ซากเรือที่จมอยู่ขึ้นมา
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภายในเรือ ยังไม่พบคนขับและลูกเรือ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ลากเรือที่ประสบเหตุเข้าฝั่ง พร้อมกันนี้ทางทีมกู้ภัยได้แบ่งกำลังออกค้นหา ระหว่างเกาะนมสาว และ แนวปะการังลานหินสีชมพู ซึ่งเป็นจุดที่พบเรือลำในครั้งแรก โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ตั้งกองอำนวยการที่บริเวณจุดชมวิวปากน้ำแขมหนู ตำบลตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เพื่อคอยประสานงานและอำนวยการค้นหา สำหรับเรือที่ประสบเหตุดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า ได้ออกไปตกปลาในบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีคนขับ และผู้โดยสาร รวม 2 คน ซึ่งขณะเรือลอยลำอยู่กลางทะเล คาดว่าน่าจะถูกคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำ จนทำให้เรือเสียการทรงตัว และเกิดอับปางกลางทะเลดังกล่าว
จากการสอบถามญาติของผู้สูญหาย ทราบว่า เรือลำที่ประสบเหตุ มีผู้โดยสารจำนวน 2 คน ทราบชื่อคือ นายสมจิตร โทนศิ หรือ (ป๋าทุย) (เจ้าของเรือ) อายุ 65 และนายประสูติ อบภิรมย์ อายุ 55 ปี ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ประสานไปยังกรมเจ้าท่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และศูนย์ศรชล เพื่อร่วมในการค้นหาในครั้งนี้ ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางจังหวัดจันทบุรี โดยนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มีการประสานงานไปยัง หมวดการบิน31 กองทัพเรือ ในการขอสนับสนุนเครื่องบินลาดตระเวน เพื่อร่วมตรวจสอบ และค้นหาผู้สูญหายทางทะเลในครั้งต่อไป