27 พฤษภาคม 2567 ตำรวจนครบาลโดยชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. เปิดเผยการจับกุมคนร้าย ที่ก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ ที่จอดไว้ในโรงแรมใจกลางเมืองกรุงเทพในช่วงกลางวัน ก่อนฉกเอาทรัพย์สินและเอกสารสำคัญ ที่วางไว้ภายในรถไป จากนั้นคนร้ายยังเหิมเกริม นำบัตรเครดิตของผู้เสียหาย ไปรูดซื้อสินค้ากว่า 2 แสนบาท
เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 67 เวลา 09.30 น. โดยผู้เสียหาย ได้ขับขี่รถยนต์ (ป้ายแดง) มาจอดไว้ที่ลานจอดอาคารจอดรถชั้น 5 โรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยสุขุมวิท 23 จนกระทั่งช่วงเย็น ผู้เสียหายพบว่า กระจกรถยนต์ประตูหลังด้านซ้าย มีร่องรอยถูกทุบจนแตกละเอียด และพบว่า กระเป๋าเป้สีดำและกระเป๋าคาดเอวสีน้ำเงิน และกระเป๋าสะพายที่วางอยู่เบาะด้านหลังได้หายไป
ภายในกระเป๋าทั้งสามใบ มีทรัพย์สินเป็นบัตรเครดิต สมุดบัญชีธนาคาร หลายธนาคาร เงินสด และเอกสารราชการต่าง ๆ ซึ่งต่อมาผู้เสียหาย ได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางโทรศัพท์มือถือว่า มีการใช้บัตรเครดิตหลายครั้ง จึงเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สน.ทองหล่อ
จากการลงพื้นที่สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานกว่า 1 เดือน เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 สืบนครบาล สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุคือ 1.นายณธกร หรือ ต้น โสภณบวรฉัตร อายุ 40 ปี และ 2.นายวชรกร หรือเก่ง จริยประภาพร อายุ 44 ปี ทั้งคู่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม , ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสาร , ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ โดยเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตร อิเล็กทรอกนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสดฯ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม”
โดยตำรวจสามารถจับกุมนายณธกรได้ที่ บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถ ซ.เทพลีลา 12 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุและอาวุธปืน รวมถึงรถยนต์ผิดกฎหมาย ส่วน นายวชรกร หรือเก่ง สามารถจับกุมที่ อะพาร์ตเมนต์ ซอยแจ่มจันทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม พร้อมของกลางเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้น นายณธกร ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายวชรกร ก่อเหตุจริง โดยตนทำหน้าที่ตัวซ้อนรถและทุบกระจก นายวชรกรทำหน้าที่คนขับขี่รถ หลังก่อเหตุ ตนได้นำบัตรเครดิตของผู้เสียหาย ไปรูดซื้อโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง เพื่อนำไปขายต่อ เงินที่ได้จะนำไปซื้อยาเสพติดเพื่อเสพ ที่เลือกทุบรถเพราะว่า สถานที่ดังกล่าวปลอดคน และมองเห็นสิ่งของมีค่าในรถได้ชัด
ส่วนนายวชรกร ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าว แต่ให้การว่ารู้จักนายณธกร เนื่องจากเป็นเพื่อนกินเที่ยวด้วยกัน และรับว่า ยาเสพติดที่ตรวจพบเป็นของตน ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของทั้งคู่ พบมีประวัติคดีอาวุธปืนและลักทรัพย์ รวมถึงคดียาเสพติดในหลายพื้นที่ จึงนำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป