เป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการสีกากี กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีคำสั่งย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้มาปฏิบัติราชการชั่วคราว 60 วัน ที่สำนักนายกรัฐมนตรี
จากกรณีความขัดแย้ง คดีเว็บพนันออนไลน์ เครือข่าย "มินนี่" ที่ลุกลาม มีการออกมาโจมตีกับอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ. ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร.
คำสั่งดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกฯ ได้เรียก "บิ๊กต่อ" และ "บิ๊กโจ๊ก" เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล และปรากฏภาพทั้งคู่ แถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศยืนยัน ไม่มีความขัดแย้งส่วนตัว หรือขัดแย้งภายในองค์กร
ทั้งนี้นอกจากคำสั่งย้าย "บิ๊กต่อ" และ "บิ๊กโจ๊ก" ให้มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว นายกฯ ยังมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความขัดแย้งดังกล่าวจำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ และ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ซึ่งทั้งสามคนนี้ เป็นคณะกรรมการชุดเดียวกับที่นายกฯ เคยตั้งเพื่อตรวจสอบ กรณีการบุกค้นบ้านของบิ๊กโจ๊กก่อนหน้านี้
Nation STORY จะพาไปรู้จักปูมหลังของ 3 อรหันต์ชุดนี้ว่า แต่ละคนมีความเป็นมาอย่างไร และมีประวัติการทำงานอย่างไรบ้าง ทำไมจึงเป็นที่ไว้วางใจให้ตรวจสอบศึกความขัดแย้งภายในกรมปทุมวันครั้งนี้....
ทั้งนี้ คณะกรรมการทั้ง 3 ราย ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้น เพื่อตรวจสอบความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง "บิ๊กต่อ" และ "บิ๊กโจ๊ก" นั้น ถือเป็นที่รู้จักของสังคม และเป็นที่ยอมรับถึงความเที่ยงตรงในการทำงาน
"ทั้ง 2 คน ก็รู้สึกกังวลใจ แต่ก็ยอมรับด้วยดี เนื่องจากได้แจ้งรายชื่อคณะกรรมการทั้ง 3 คนให้ทราบแล้ว ทั้ง 2 คน " คำพูดของนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล 20 มี.ค. 67
เปิดปูมหลัง 3 อรหันต์ มือทำงานนายกเศรษฐา
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ หรือ ปลัดฉิ่ง
เกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2504
การศึกษาและคุณวุฒิ
ประสบการณ์การทำงานและผลงานที่ผ่านมา
สำหรับ นายฉัตรชัย นั้น เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ประเภท (ข) อันดับ 1 และได้รับเลือกให้เป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2566 โดยก่อนหน้านี้ได้รับการเลือกเป็นคณะกรรมการสอบ กรณีการค้นบ้านของบิ๊กโจ๊ก เพื่อเอามาตรวจสอบเเละคานอำนาจตำรวจ เรื่องเส้นทางการเงิน อีกทั้งบุคคลิกนายฉัตรชัย เคยเป็นนักปกครองที่มีผลงาน ความสามารถและมีประสบการณ์สูง
นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด
นายชาติพงษ์ นั้นขึ้นชื่อในฝีมือเรื่องปราบการทุจริตคอร์รัปชัน มีประสบการณ์มากมาย เคยเป็นรองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ เเละอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ที่คุมคดีสำคัญของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี อาทิ
นอกจากนี้ นายชาติพงษ์ ยังเคยเป็นกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องคดีลูกนักธุรกิจชื่อดังขับรถชนคนตาย
ทั้งนี้แม้ นายชาติพงษ์ จะไม่ได้เป็น ก.ตร. และถือเป็นคนกลางอย่างแท้จริง แต่ก็ถือเป็นผู้มีความรู้เรื่องในวงการตำรวจเป็นอย่างดี เพราะเป็นบุตรชาย พล.ต.อ.สุพาสน์ จีระพันธุ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง
พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ
เกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2500
จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 32 (นรต.32) เริ่มรับราชการด้วยการเป็นนายเวรผู้บังคับการตำรวจภูธร 12 จังหวัดยะลา จนกระทั่งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปราม ในปี พ.ศ. 2547 ด้วยยศ พลตำรวจตรี (พล.ต.ต.) ในยุครัฐบาลที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
กลางปี พ.ศ. 2554 พล.ต.อ.วินัย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แทนที่ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่ได้รับคำสั่งโยกย้ายไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แทน ก่อนจะย้ายไปเป็น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ต่อมาได้ย้ายมาเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2566 พล.ต.อ.วินัย ได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากอดีตข้าราชการตำรวจ เเละนายกสมาคมตำรวจ
พล.ต.อ.วินัย มีผลงานจากบทบาทการผลักดัน ในเรื่องการปฎิรูปตำรวจ รวมถึงสนับสนุนข้าราชการตำรวจน้ำดี ให้ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ด้วยหลักคุณธรรม ความสามารถและอาวุโส รวมถึงยังสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ก.ตร.จากข้าราชการตำรวจ เเบบศาลกับอัยการ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.วินัย ยังเป็นคนซื่อตรง เเละกล้าที่จะเข้ามาเเก้ปัญหาของข้าราชการตำรวจอย่างตรงไปตรงมา