ย้อนไทม์ไลน์ คดี "พี่ศรีเงินติดรั้ว" เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไร แล้วยังไงต่อ

เป็นประเด็นร้อน ๆ ในสังคมช่วงข้ามวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่าน กรณีเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. จับกุม พี่ศรี "นายศรีสุวรรณ จรรยา" นักเคลื่อนไหวชื่อดัง ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน พร้อมด้วย "นายยศวริศ ชูกล่อม" หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก "นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี พร้อม น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจำนวน 3 ล้านบาท 

หลังรับเรื่องร้องเรียนจาก "นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์" อธิบดีกรมการข้าว ว่า ได้ถูก "นายศรีสุวรรณ และพวก ร่วมกันข่มขู่เรียกเงิน เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกข้าว และโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว โดยอ้างว่า พบข้อพิรุธที่ส่อไปในทางทุจริต ก่อนที่จะมีการเจรจาต่อรองเหลือเพียง 1.5 ล้านบาท 

 

ภายหลังจากการจับกุมครั้งนี้ ในส่วนของคดีความ อยู่ระหว่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องพิสูจน์ตัวเอง ในกระบวนการยุติธรรม

แต่สิ่งที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมคือ คำถามที่ว่า กระบวนการร้องเรียนตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลต่าง ๆ ในภาครัฐนั้น เนื้อแท้แล้วเป็นการตรวจสอบของภาคสังคม หรือการหาเงินของกลุ่มคน ผ่านการที่ใช้เครื่องมือการตรวจสอบของภาครัฐ และมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่อย่างไร รวมถึงนอกจากอธิบดีกรมการข้าวแล้ว ยังมีหน่วยงานของรัฐหน่วยงานใดอีกบ้าง ที่ถูกกระทำเช่นนี้ 

อย่างไรก็ตาม หากไล่เรียงความเป็นมาเป็นไปของคดีการจับกุม นายศรีสุรรณและพวก ในการเรียกรับเงิน หรือที่ชาวเน็ตแซวกันว่า "คดีพี่ศรีเงินติดรั้ว" นั้น สามารถสรุปเป็นไทม์ไลน์ได้ดังนี้ 

 

เปิดไทม์ไลน์คดี "พี่ศรีเงินติดรั้ว" 

ก.ค. 66 มีการส่งบัตรสนเท่ห์ มาทางไปรษณีย์จาก จ.นครราชสีมา มายังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบทุจริต 4 โครงการ ไม่ลงชื่อคนร้อง  

พ.ย. 66มีการหนังสือส่งถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยที่ปรึกษาของกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบพบว่า มาจาก "นายศรีสุวรรณ จรรยา" โดยอธิบดีกรมการข้าว ถูกเรียกไปชี้แจง มีการยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง แต่ก็มีการตัดปัญหา ด้วยการพาไปคุยกับนายศรีสุวรรณที่บ้าน มีการให้เงินไปก้อนหนึ่ง 


20 ธ.ค. 66 ช่วงกลางวัน "นายศรีสุวรรณ" พร้อม "นายยศวริศ" แถลงข่าวที่รัฐสภา เรื่องโครงการซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวงฯ โดยช่วงท้ายของการแถลงข่าว มีการพาดพิงกรมการข้าว เกี่ยวกับข่าวทุจริตมูลค่าหมื่นล้านบาท  

จากนั้นในช่วงกลางคืน "นายยศวริศ" โทรศัพท์หาอธิบดีกรมการข้าว แต่ไม่ได้รับ พอโทรศัพท์กลับไป ก็ไม่ได้รับ จึงยังไม่มีการพูดคุยกัน


21 ธ.ค. 66 ช่วงเช้า "นายยศวริศ" โทรหาอธิบดีกรมการข้าวอีกครั้ง เพื่อชวนกินกาแฟ ที่กรมการข้าวในช่วงสาย ๆ ก่อนที่จะเดินทางมาในเวลา 12.11 น. และพูดคุยกัน มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการขอให้อธิบดีกรมการ ดูแล "นายศรีสุวรรณ" โดยตกลงกันให้คุยผ่านภรรยาอธิบดีกรมการข้าว 

ทั้งนี้ระหว่างขับรถกลับ "นายยศวริศ" คุยโทรศัพท์กับภรรยาอธิบดีกรมการข้าว เรียกค่าดูแล 3 โล (หมายถึงเงิน 3 ล้านบาท) ก่อนต่อรองกันเหลือ 1.5 โล (หรือ 1.5 ล้านบาท) เวลา 19.29 น. ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว โอนเงินก้อนแรกไปตามบัญชีม้าที่ส่งมาให้ จำนวน 50,000 บาท 

จากนั้นปลายเดือน ธ.ค.66 (จากนั้นไม่กี่วัน) ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว โอนเงินเข้าบัญชีเดิมอีก 10,000 บาท 


ต่อมาช่วง เดือน ม.ค. 67 ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว นำเงินสดไปให้อีก 100,000 บาท ที่บ้าน นายศรีสุวรรณ จากนั้นจึงนำหลักฐานร้องตำรวจ

ขณะที่ฝ่ายนายศรีสุวรรณ ได้กดดันให้เอาส่วนที่เหลือมาให้ครบ 1.5 ล้านบาท ตามตกลง ไม่อย่างนั้นจะมีการแถลงข่าวในวันศุกร์ที่ 26 ม.ค.
 

26 ม.ค. 67 ช่วงเช้า "นายยศวริศ" โทรหาภรรยาอธิบดีกรมการข้าว เพื่อขอให้เคลียร์เงินที่ตกลงกันไว้ก่อนเที่ยง ไม่อย่างนั้นจะแถลงข่าว ซึ่งภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ได้คุยกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน ก่อนประสานนัดมอบเงิน ซึ่ง "นายศรีสุวรรณ" ให้ไปแขวนเงินไว้หน้าบ้าน ก่อนที่ช่วงบ่าย ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว จะนำเงินไปแขวนหน้าบ้าน "นายศรีสุวรรณ" จนตำรวจเข้าจับกุมตัว ตามที่เป็นข่าว 


ภายหลังการจับกุม นายศรีสุวรรณ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติได้โทรศัพท์มายัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เพื่อประสานติดต่อจะพา นายยศวริศ กับ น.ส.พิมณัฏฐา ผู้ต้องหาอีก 2 ราย เข้ามอบตัว  
 

26 ม.ค. 67 เวลา 18.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงกาารจับกุม "นายศรีสุวรรณ" เรียกรับเงิน พร้อมเปิดพฤติการณ์ต่อรองรีดทรัพย์ 1.5 ล้านบาท มีการยืนยันหลักฐาน ทั้งเอกสารโอนเงิน และเงินของกลาง ที่บุกจับได้ที่บ้านพัก 
 

27 ม.ค. 67 เวลา 02.00 น. ภายหลังการสอบเครียดนานกว่า 9 ชั่วโมง ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง "นายศรีสุวรรณ" และ "นายยศวริศ" ได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน วงเงิน 4 แสนบาท ซึ่งภายหลัง "นายศรีสุวรรณ" ระบุว่า เป็นฝีมือผู้เสียประโยชน์ ยันมีหลักฐานแน่นหักล้างทุกข้อกล่าวหาได้
ขณะที่ "นายยศวริศ" ปฏิเสธว่า ไม่มีเรื่องเรียกรับเงินแต่อย่างใด 
 

27 ม.ค. 67 นางธัญญรัตน์ ไชย์ศิริคุณากร ภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว ผู้เสียหายในคดี เปิดใจว่า ต้องทุกข์ทรมาน หลังโดนแก๊ง "พี่ศรี" ข่มขู่เรียกทรัพย์ รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม พร้อมยืนยันว่า สามีไม่ได้ทำผิด และหากปล่อยคนแบบนี้ไว้ ประเทศชาติอยู่ยาก จึงลุกขึ้นสู้ พร้อมเชื่อว่า มีการทำกันเป็นขบวนการ
 

28 ม.ค. 67 นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. โดยมี นางธัญญรัตน์ ภรรยา เดินทางเข้ามาด้วย พร้อมนำหลักฐานบัญชีธนาคาร 20 บัญชี มาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
 

29 ม.ค. 67 นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ทนายความ และที่ปรึกษากฎหมาย “อธิบดีกรมการข้าว” อธิบายไทม์ไลน์ คดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว พร้อมเผยว่า มีนักการเมืองชื่อย่อ ป. อดีตผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ บอกให้ยุติบทบาท 
 

29 ม.ค. 67 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า เตรียมนัดประชุม กก.บห.พรรคในวันที่ 30 ม.ค. 67 เพื่อพิจารณษขับ "พิมณัฏฐา" ให้พ้นจากพรรค ส่วน "นายยศวริศ" พบว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค 
 

29 ม.ค. 67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ รอง ผบช.ก. ออกมาเปิดเผยว่า ผลการประชุมชุดสืบสวน พบข้อมูลมีคนบงการขบวนการตบทรัพย์ "อธิบดีกรมการข้าว" อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเอาผิด พร้อมเตรียมขยายผลสอบว่า จะเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินด้วยหรือไม่ มีการเชิญ ปปง. ในฐานะคณะทำงานมาร่วมพิจารณาข้อกฎหมาย และจะขอตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน หลังพบหน่วยงานอื่นถูกเรียกรับเงินกว่า 100 ล้านบาท 
 

29 ม.ค. 67 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ สั่งปลัดกระทรวงฯ เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบทุกกรมของกระทรวงเกษตรฯ ที่เคยถูกร้องเรียน​ พร้อมประกาศว่า ยุคของตนต้องไม่มีเรื่องการทุจริต 
 

สำหรับคดีการเรียกรับเงิน จากอธิบดีกรมการข้าวนั้น จะต้องติดตามบทสรุปต่อไปว่า คดีนี้จะมีการขยายผลสาวไปถึงใครบ้าง และสุดท้ายแล้ว ใครจะต้องรับต่อผลการกระทำผิดบ้าง เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป........