19 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคนร้ายก่อยิง นายธนสรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องหยอด อายุ 19 ปี นักเรียนมหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เสียชีวิต และ น.ส.ศิรดา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ ครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ซึ่งถูกลูกหลงจนเสียชีวิตด้วยนั้น
จนนำมาซึ่งการติดตามจับกุมตัว 8 ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว และคุมตัวมาฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลค้านประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เพราะเป็นคดีร้ายแรง เกรงกลุ่มผู้ต้องหาจะหลบหนี และออกหมายจับเพิ่มอีก 3 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว นายอ้ำ มือยิงนายธนสรณ์และน.ส.ศิรดาได้แล้ว หลังจากหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยชุดสืบสวนนครบาลอยู่ระหว่างนำตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล
"บิ๊กจ๋อยัน" รวบแล้วมือยิง"ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด"
ในเวลา 11.47 ได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่าขณะนี้ตำรวจฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาลสามารถคุมตัวนายอนาวิน หรือวิน แก้วเก็บ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ครูเจี๊ยบและน้องหยอด จนเสียชีวิต โดยฝ่ายสืบสวนสามารถจับกุมตัวได้ที่กบดานแห่งหนึ่งในอำเภอดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่
ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลและเตรียมคุมตัวกลับมายัง กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ซึ่งในวันพรุ่งนี้เวลา 13:30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่ง พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเป็นผู้เดินทางมาทำการสอบสวนและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วยตัวเอง
ส่วนของผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีในคดีนี้ยังเหลืออีก 3 ราย คือ นายอับดุลเลาะ หรือเลาะ ดือราแม อายุ 28 ปี และผู้ต้องหาอีกสองรายที่มีการออกหมายจับเพิ่มเติม 14 หมายวานนี้ ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาอีกสองรายแบ่งเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ระดมเงินเรี่ยรายจัดหา เซฟเฮาส์หรือที่รวมตัว และผู้ที่ทำหน้าที่จัดหาอาวุธปืน
โดยขนาดนี้ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดว่าจากการสืบสวนทั้งสองหลบหนีอยู่ในพื้นที่ใดแต่ยืนยันว่าตำรวจมีข้อมูลเส้นทางหลบหนีของคนร้ายทั้งหมดไว้เป็นที่เรียบร้อยเชื่อว่าจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ และยืนยันว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ที่ตำรวจมีการออกหมายจับ เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในครั้งนี้ทุกคน
ฝากขัง 13 ผู้ต้องหา คดี"ยิงน้องหยอด-ครูเจี๊ยบ"
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงเช้าวันนี้(19 ธ.ค.)ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดเคลื่อนที่เร็วของกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 หลายสิบนาย เพื่อป้องกันความวุ่นวาย ตามรายงานข่าวว่าอาจมีเพื่อนของผู้ต้องหามาเยี่ยมผู้ต้องหา
ขณะเดียวกันแม่ของผู้ที่เสียชีวิตในคดียิงกลางงานแต่ง ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 65 และครอบครัวของน้องหยอด เดินทางมาขอเข้าพบ พล.ต.ต. วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา 13 ราย
ด้าน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ก็มีบางส่วนให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ซึ่งพนักงานสอบสวนยืนยันมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานรัดกุมแน่นหนาเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด
โดยการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังครั้งนี้ ได้ใช้กำลังตำรวจของสน.ทุ่งมหาเมฆ และชุดเคลื่อนที่เร็วของกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 รวม 30 นาย ในการดูแลความสงบเรียบร้อย เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดจากกลุ่มเพื่อนของผู้ต้องหาที่มาเยี่ยมทั้งที่โรงพักและที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ แต่ก็ไม่ได้มีกลุ่มเพื่อนผู้ต้องหารวมตัวกันมาแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์
ขณะที่ทาง นางพรพิมล จำเมือง แม่น้องหยอด เผยว่า วันนี้ได้มาเฝ้าติดตามดูผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุยิงน้องหยอด-ครูเจี๊ยบ พร้อมกับจะยื่นหนังสือขอคัดค้านประกันตัวที่ศาลิาญากรุงเทพใต้ เนื่องจากลูกของตนยังไม่ได้รับความเป็นธรรม และตัวผู้ต้องหาไม่มีความสลดสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป หลังจากที่น้องหยอดเสียชีวิตที่บ้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะน้องชายที่ซึ่งตอนนี้มีอาการวิตกกังวล และถามถึงสาเหตุการตายของน้องหยอดทุกวันว่า เขายิงพี่หยอดทำไม ทำไมถึงต้องยิงพี่หยอด ถามแบบนี้อยู่ทุกวัน
ตนขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพราะที่ผ่านมาผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวได้เคยก่อเหตุและได้รับการประกันตัวกลับมาก่อเหตุแบบนี้อีก วันนี้จึงจะเดินเรื่องคัดค้านประกันตัว ให้กฎหมายเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้งหมดนี้ให้ถึงที่สุด