svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ด่วน! ศาลทหารตัดสิน กลุ่มทหาร ซ้อมทรมาน"พลทหารวิเชียร" ออกจากราชการ-จำคุก

24 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลทหารตัดสินจำคุก และให้ออกจากราชการ นายทหารยศ "ร้อยโท" และพวกรวม 8 คน คดีซ้อมทรมานพลทหารวิเชียร หลานสาวโพสต์ รอคอยความยุติธรรม 12 ปี 5 เดือน

24 พฤศจิกายน 2566 เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 นัดฟังคำพิพากษา ครั้งที่ 3 คดีซ้อมทรมานพลทหารวิเชียร เผือกสม หลังจากที่เลื่อนนัดฟังคำพิพากษามาแล้ว 2 ครั้ง โดยศาลได้ชี้แจ้งเหตุผลในทำนองว่า คดีนี้เป็นคดีที่ต้องมีการพิจารณาหลายประเด็นโดยละเอียด และคดีนี้อยู่ในเขตพื้นที่กฎอัยการศึกอีกด้วย จึงตัองส่งให้ฝ่ายหัวหน้ามณทลทหารพิจารณา จึงไม่สามารถทำคำพิพากษาให้แล้วเสร็จ ซึ่งหากนับแต่วันสืบพยานเสร็จสิ้น 24 มิ.ย 66 จนถึง 24 พ.ย 66 เป็นเวลา 7 เดือนกว่า ที่ครอบครัวของพลทหารวิเชียร ยังคงรอความเป็นธรรม

สำหรับคดีซ้อมทรมาน พลทหารวิเชียร สืบเนื่องมาจาก พลทหารวิเชียร เผือกสม ขณะอายุ 26 ปี ซึ่งเป็นพลทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2554 สังกัด ร.151 พัน.3 ถูกกระทำการละเมิดซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่ทหารรวม 9 คน ณ ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาสทหารซึ่งเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายจากการบาดเจ็บสาหัส ไตวายเฉียบพลัน และกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2554 

โดยระบุการลงโทษมาจากสาเหตุหลบหนีทหาร ต่อมาพนักงานอัยการศาลทหารเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายทหารยศร้อยโทกับเจ้าหน้าที่ทหารรวม 9 คน เป็นจำเลย ในคดีดำที่ 41 ก./ 2563 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา
"วิเชียร เผือกสม" ก่อนเป็น "พลทหารวิเชียร"

กระทั่ง มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ยื่นหนังสือขอเข้าสังเกตการณ์คดี เมื่อวันที่ 17 พ.ย 66 เพื่อขอเข้าฟังศาลมณทลทหารบกที่ 46 อ่านคำพิพากษาในนัดดังกล่าว และศาลได้อนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมฟังคำพิพากษาในครั้งนี้อีกด้วย

ล่าสุด "มูลนิธิผสานวัฒนธรรม" ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า..

"ศาลสั่งนายทหารยศร้อยโทกับพวกรวม 8 คน จำเลย'คดีพลทหารวิเชียร เผือกสม' ถูกซ้อมทรมาน ผิด 157 ทำร้ายร่างกาย! และข้อหาอื่น"

ขณะที่ "เมย์" น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หลานสาวผู้ทำหน้าที่ทวงความยุติธรรมให้กับ "พลทหารวิเชียร" น้าชายแท้ๆ มาตั้งแต่เริ่มต้น สมัยยังเป็นเพียงนักศึกษาปี 2 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินสายไปยื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าทางคดี ทวงความยุติธรรมมาโดยตลอด 

ล่าสุด น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก "นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์" ถึงความเป็นธรรมที่รอคอยมานานเกือบ 13 ปี ระบุว่า...

สิ้นสุดการต่อสู้กับอำนาจ ยศ และเงิน #เอาคนผิดทุกนายให้ออกจากราชการของกองทัพบกและได้รับโทษจำคุก
ตลอดระยะเวลา 12 ปี 5 เดือนกว่า ที่ลุกขึ้นสู้ไม่ถอยเพื่อตามหาความยุติธรรมในคดีพลทหารวิเชียร เผือกสม ตั้งแต่เพิ่งขึ้นปี 2 จนถึงตอนนี้ เมย์ผ่านเรื่องราวมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นข่มขู่ครอบครัว ถูกขู่ฆ่า คนมีอำนาจช่วยเหลือคนผิด ความช้าล่าของกระบวนการยุติธรรม และการกลายเป็นผู้ต้องหาถูกจับกุมตัว
"เมย์" หลานสาวของ "พลทหารวิเชียร" ต่อสู้ขอความเป็นธรรม กระทั่งถูกฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทฯ
วันนี้เมย์ทำสำเร็จแล้วนะคะ #เมย์พิสูจน์ให้สังคมเห็นว่าความถูกต้องและความยุติธรรมอยู่เหนืออำนาจและเงิน ถึงเป็นลูกนายพล มีทหารยศใหญ่ที่เลือกพวกพ้องมากกว่าความถูกต้องช่วยเหลือทุกขั้นตอน แต่ถ้าทำผิดก็ได้รับโทษทางกฎหมาย

24 พ.ย. 2566 มณฑลทหารบกที่ 46 มีคำพิพากษา
จำเลยที่ 1 ร้อยโทลูกนายพล จำคุก 2 ปี
(คนที่แจ้งความจนเมย์ถูกจับกุมตัวเป็นผู้ต้องหา และใช้เวลาต่อสู้ 3-4 ปี จนอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง)
จำเลยที่ 2 ร้อยตรี จำคุก 4 ปี
จำเลยที่ 3 จำคุก 3 ปี
จำเลยที่ 4-5, 7-9 จำคุก 2 ปี
จำเลยที่ 6 เสียชีวิต
จำเลยที่ 10 หลบหนีตามหมายจับศาลทหาร

#ทั้งนี้ศาลทหารไม่มีอุธรณ์และฎีกา
สิ้นสุดแค่การตามหาความยุติธรรม แต่ไม่สิ้นสุดหน้าที่ความรับผิดชอบ สิ่งที่ต้องทำต่อไป คือ ตามกองทัพบกเรื่องไล่เบี้ยค่าสินไหมทดแทน 7 ล้านบาทที่ใช้ภาษีประชาชนจ่ายให้กับครอบครัวเมย์ในคดีแพ่ง โดยกองทัพบกต้องตามไล่เบี้ยคืนจากจำเลยทั้ง 10 คนมาคืนให้กับเงินภาษีตามกฎหมายต่อไป

logoline