25 ตุลาคม 2566 ความคืบหน้าคดีที่ พลทหารวิเชียร เผือกสม ถูกเจ้าหน้าที่ทหาร กระทำการละเมิดซ้อมทรมาน เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ที่ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2554 จนกลายเป็นคดีโด่งดัง
โดยคดีนี้ ศาลทหาร ได้นัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ (25 ต.ค.) หลังจากที่เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้แจ้งให้คู่ความทราบในวันนัดว่า มีปัญหาข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
หลังจากการรอคอยจากครอบครัวของ พลทหารวิเชียร มานานกว่า 12 ปี ล่าสุดวันนี้ ปรากฏว่า ศาลมณทลทหารบกที่ 46 เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาของคดี พลทหารวิเชียร อีกครั้ง จากวันที่ 25 ต.ค. 66 เป็นวันที่ 24 พ.ย. 66 โดยในครั้งนี้ศาลได้ชี้แจงว่า คดีนี้เป็นคดีที่ต้องมีการพิจารณาหลายประเด็นโดยละเอียด และคดีนี้ยังอยู่ในเขตพื้นที่กฎอัยการศึกอีกด้วย จึงต้องส่งให้ฝ่ายหัวหน้ามณฑลทหารพิจารณา ท่ามกลางความเสียใจและเฝ้ารอคอยของครอบครัว และนักสิทธิมนุษยชนในพื้นที่
โดยคดีนี้ พนักงานอัยการศาลทหาร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทหาร ร้อยโทภูริ เพิกโสภณ พร้อมพวกอีก 9 คน ในคดีรุมซ้อมทรมาน จนทำให้เป็นเหตุเสียชีวิต ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , เป็นทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา
ที่ผ่านมา ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ได้สืบพยานมารดาของพลทหารวิเชียร , พลทหารที่ค่ายจำนวนหลายปาก ซึ่งเป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ , แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ขณะเกิดเหตุ , ผู้ชันสูตรศพของผู้ตายในวันเกิดเหตุ ขึ้นเบิกความยืนยันในประเด็นผลชันสูตร , เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการ ป.ป.ท. ที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้ และได้วินิจฉัยชี้มูลว่า จำเลยมีความผิด ขึ้นเบิกความเพื่อยืนยัน ถึงรายละเอียดและข้อเท็จจริงของการสอบสวนในชั้น ป.ป.ท. รวมถึงการชี้มูลและแจ้งข้อกล่าวหาจำเลย
ต่อมาศาลได้แถลงว่า ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากคดี นี้เป็นระบบไต่สวน ศาลอาจมีการนัดสืบพยานเพิ่มเติมหาก ยังคงมีข้อสงสัยในประเด็นใด ระหว่างการเขียนคำวินิจฉัย โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าต่อไป โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า ศาลได้แจ้งให้คู่ความทราบในวันนัดว่า มีปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ จึงให้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 25 ต.ค.66 และล่าสุดเลื่อนอีกครั้งเป็นวันที่ 24 พ.ย. 66
มารดาของพลทหารวิเชียร กล่าวว่า ก็ต้องรอคอยต่อไป ขอสู้ต่อไป ขณะที่ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า กรณี พ.ร.บ.ใหม่ (พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย) หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย เดิมข้อจำกัดอำนาจศาลทหาร แม้ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นทหารก็ตาม กม.เดิม ซึ่งเป็นธรรมนูญศาลทหาร จะพิจารณาคดีกรณีที่ผู้กระทำผิดเป็นทหารทุก ๆ กฎหมายอาญายกเว้น พ.ร.บ.ฉบับนี้
ถ้าทหารตกเป็นผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหาในคดี ที่เกี่ยวข้องกับการ ทรมาน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม ย่ำยีศักดิ์ศรี หรือ บังคับบุคคลให้สูญหาย เขาจะถูกพิจารณาคดีที่ศาลพลเรือน ก็คือศาลจังหวัด อย่างเราก็สามารถตั้งตนเป็นทนายความ ให้ผู้เสียหายที่เสียชีวิต หรือบาดเจ็บที่เป็นทหารได้ หรืออัยการฟ้องให้ เราก็สามารถเป็นโจทย์ร่วมได้