ผบ.ตร. รับไม่ได้กรณี "ครูเจี๊ยบ" มองคนก่อเหตุเป็นองค์กรอาชญากรรมไม่ใช่ นศ.

13 พฤศจิกายน 2566 ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ตัวแทนสโมสรนักศึกษาอุเทนถวาย และตัวแทนนักศึกษา พร้อมด้วย น.ส.พรพิมล แม่นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เข้ายื่นหนังสือถึง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ในฐานะเป็นผู้เสียหาย จากคดีไล่ยิงกลุ่มเด็กช่าง แต่ปรากฎกระสุนพลาดไปโดน "ครูเจี๊ยบ" ครูสอนคอมพิวเตอร์ รร.พระหฤทัยคอนแวนต์ เสียชีวิต หน้าตู้กดเงินสด ธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาคลองเตย  
 

นายทักษิต เรียบร้อย นายกสโมสรนักศึกษาอุเทนถวาย ระบุว่า ในวันเกิดเหตุ นายธนสรณ์ กำลังเดินทางมาที่มหาวิทยาลัย ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทใด ๆ และไม่ขอพาดพิงว่า คู่กรณีอยู่สถาบันไหน เพราะยังไม่รู้ตัวผู้ก่อเหตุ แต่ยืนยันว่า นายธนสรณ์ เป็นเด็กที่เรียนเก่ง ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ดังนั้น นายธนสรณ์ และครูเจี๊ยบ จึงถือเป็นผู้ถูกกระทำด้วยกัน จึงอยากมาส่งหนังสือให้ตำรวจ เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

นายทักษิต ยอมรับว่า ตอนนี้ก็กังวลว่า อาจมีการก่อเหตุซ้ำ ทางสโมสรนักศึกษา อาจารย์ และสมาคมศิษย์เก่า ได้คุยถึงมาตรการป้องกัน จึงได้ปิดให้เรียนออนไลน์ 3 วัน และจะให้ความช่วยเหลือ เยียวยาความรู้สึกแม่ผู้บาดเจ็บให้ดีที่สุด รวมถึงครูเจี๊ยบที่เสียชีวิตด้วย 
 

ส่วนอาการบาดเจ็บของ นายธนสรณ์ น.ส.พรพิมล ผู้เป็นแม่ระบุว่า ยังน่าเป็นห่วง ตอนนี้หมอต้องรักษาตามลำดับขั้น โดยเน้นส่วนสำคัญที่รักษาชีวิตก่อน และยอมรับว่า ยังรู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการนำเสนอข่าวในทิศทางว่า ลูกตนไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จนทำให้เกิดผู้สูญเสียในครั้งนี้ ทั้งที่จริงลูกตนก็เป็นผู้เสียหาย ถูกกระทำเช่นกัน 

ผบ.ตร. รับไม่ได้แก๊งอาชญากรอาชีวะยิงคู่อริ สั่งคาดโทษผู้การทั่วประเทศ  

ขณะ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ระบุว่า คดีนี้ถือเป็นคดีที่ 2 ที่มีแผนประทุษกรรม ลักษณะเป็นนักศึกษา ที่มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนในการก่อเหตุ มีการหมายหัวเป้าหมายชัดเจน ซึ่งตนมองว่า เป็นรูปแบบองค์กรอาชญากรรมกลุ่มเล็ก ไม่ใช่นักศึกษา ซึ่งตนรับไม่ได้ จึงได้สั่งการไปยังผู้บังคับการจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. สมุทรปราการ และนนทบุรี ซึ่งมักจะเกิดเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ หรือยังปล่อยให้เกิดเหตุ ผู้บังคับการจังหวัดจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย 

ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้ชุดปะฉะดะ หรือชุดปฏิบัติการพิเศษ ออกลาดตระเวน เพื่อป้องกันเหตุ ส่วนความคืบหน้าทางคดียังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ตร.ยอมรับผู้อเหตุเตรียมการมา มีทักษะในการเอาตัวรอด  

เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น. 5 ที่เดินทางมาประชุมร่วมกับชุดคลี่คลายคดี ที่เปิดเผยว่า ขณะนี้การรวบรวมพยานหลักฐาน มีความคืบหน้าไปในระดับหนึ่ง แต่ขอให้ตำรวดำเนินการให้เต็มที่ก่อน และยังไม่ได้มีการออกหมายจับใคร

เบื้องต้นเชื่อว่า มีผู้ก่อเหตุ 2 คน ส่วนปมความขัดแย้งยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบัน ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ตาม สำหรับรถ จยย. คันที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่า มีการสวมป้ายทะเบียน พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบผู้ครอบครองทะเบียนรถคันดังกล่าว 
 

เมื่อถามว่า ตอนนี้ตำรวจมีการให้ข่าวค่อนข้างระมัดระวังเป็นพิเศษ หมายความว่า ผู้ก่อเหตุเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วใช่หรือไม่ และกลัวว่าผู้ก่อเหตุ จะทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ยอมรับว่า ในอนาคตกลัวว่าจะมีการทำลายหลักฐานจริง หากผู้ก่อเหตุรู้แนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ

ส่วนหลักฐานอื่น ๆ ตอนนี้สามารถเก็บได้หลายส่วนแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมเพิ่มเติม จากการสอบปากคำพยาน เพื่อนคนเจ็บยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหากับใคร เพราะเป็นรุ่นน้องปี 1 เพิ่งเข้ามา ส่วนรูปพรรณสันฐานผู้ก่อเหตุนั้นจำไม่ได้ เพราะไม่รู้จักกันมาก่อน 


ส่วนพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุที่มีข้อมูลว่า มีการเตรียมการดูลาดเลา วางแผน และล็อกเป้ากลุ่มคนเจ็บ มาตั้งแต่พระราม 2 มีข้อมูลในส่วนนี้หรือไม่นั้น พ.ต.อ.วิทวัฒน์ บอกว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเช่นกัน และยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นศิษย์เก่าหรือศิษย์ปัจจุบัน

ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุมีความชำนาญ หรือตั้งกลุ่มตั้งชมรมมาก่อเหตุในลักษณะนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะหรือไม่นั้น ยอมรับว่า มีการตั้งสมมติฐาน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน และเชื่อว่าจะมีข่าวดีโดยเร็ว ทั้งนี้หากดูจากภาพวงจรปิด "ผู้ก่อเหตุมีทักษะในการเอาตัวรอด" ซึ่งการทำคดีทางผู้บังคับบัญชากำชับมาด้วยว่า ให้เฝ้าระวังเหตุไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก