20 ตุลาคม 2566 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ผู้ว่าฯ กทม.) ร่วมแถลงการรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 กรุงเทพมหานคร ปี 2567 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้
โดย พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เพื่อปกป้องสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชน จึงแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน ที่มีตนเป็นประธาน เพื่อเป็นกลไกเร่งรัดการดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่น PM2.5 และขณะนี้กรุงเทพฯ ใกล้จะเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ฝุ่น และปีหน้าปรากฏการณ์เอลนีโญจะส่งผลให้แล้งมากขึ้น
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เตรียมมาตรการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฝุ่น ทั้งการควบคุมไฟในป่า การเผาในพื้นที่เกษตร และการควบคุมการเกิดฝุ่นในพื้นที่เมืองอย่างกรุงเทพมหานครไว้แล้ว สิ่งที่สำคัญคือ ต้องนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเร่งด่วนอย่างทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การควบคุมแหล่งกำเนิดของฝุ่นมาจากยานพาหนะ กระทรวงคมนาคม ตำรวจจราจร กระทรวงพลังงาน กรมควบคุมมลพิษ และกรุงเทพมหานคร เข้มงวดการตรวจสอบ/ตรวจจับรถควันดำโดยเฉพาะการเข้ามาในเขตเมืองชั้นใน การตรวจสภาพรถยนต์ กวดขันวินัยจราจร พื้นที่ก่อสร้าง ต้องสนับสนุนประชาชนในการบำรุงรักษารถ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ การนำน้ำมันยูโร 5 มาใช้อย่างเต็มพื้นที่ และกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องควบคุมโรงงานทุกแห่งที่มีความเสี่ยงสูงในการปล่อยฝุ่น
สำหรับพื้นที่รอบนอก ขอให้ กทม.สนับสนุนเกษตรกร ช่วยกันไม่เผาตอซังฟางข้าว สุดท้ายต้องมีการสื่อสารเชิงรุก ตรงจุด ต่อเนื่อง บ่อยครั้ง ทั้งช่วงก่อน ระหว่าง และหลังสถานการณ์ การแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นต้องทั่วถึง เท่าเทียม ทันท่วงที เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่รวดเร็ว ถูกต้อง
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ในปีนี้ ภาครัฐได้เตรียมการอย่างรวดเร็วก่อนสถานการณ์ฝุ่น และพร้อมดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่พวกเราต้องรวมพลังกันทุกภาคส่วน รวมถึงพี่น้องประชาชน เพื่อให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นที่คาดว่าจะรุนแรงได้
ด้านอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุ แหล่งกำเนิดหลักใน กทม.มาจากรถยนต์ดีเซล เกือบ 57% ซึ่งรถบรรทุกและรถปิคอัพ ประกอบกับปีนี้ได้มีการปรับปรุงมาตรฐานฝุ่นละออง PM2.5 และดัชนีคุณภาพอากาศที่มีความเข้มขึ้น ทำให้สามารถแจ้งเตือนประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และในปีนี้ได้ยกระดับมาตรการขึ้นให้มีความเข้มข้นมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยจัดทำเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมการรับมือฝุ่นละออง ทั้งในเรื่องการส่งเสริมน้ำมันกำมะถันต่ำ ทำให้ฝุ่นลดลง การพัฒนาระบบตรวจสอบย้อยกลับการเผาในพื้นที่เกษตร และพื้นที่ป่า เร่งนำระบบ GAP PM2.5 Free มาใช้ และส่งเสริมสินค้าเกษตรปลอดการเผา
ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้มีการเตรียมรับมือ โดยจัดทำแผนลดฝุ่น 365 วัน ตั้งแต่ในเรื่องติดตามเฝ้าระวัง มีการทำ Riskmap ลงในแผนที่ที่จะสามารถจะเข้าถึงพื้นที่ได้ทันที มีการปรับปรุงแอพพลิเคชั่น AirBKK เพื่อให้ประชาชนวางแผนการเดินทางและการป้องกันตน การเผาในที่โล่ง แบ่งเงินรางวัลนำจับให้กับผู้แจ้งเหตุ มีการตรวจควันดำ ณ แหล่งกำเนิด อู่รถเมล์ พื้นที่ก่อสร้าง ทำห้องปลอดฝุ่น มีการติดตั้งเครื่องฟอก มาตรการ WFH ซึ่งร่วมกับกรมควบคุมมลพิษในการพยากรณ์
"ขณะนี้มีเอกชนเข้าร่วม รวมพนักงาน กว่า 40,000 คน ที่สามารถให้ความร่วมมือได้ทันที นอกจากนี้ ให้ทุกโรงเรียนใน กทม. ชักธงใน 437 แห่ง เพื่อให้เด็กรู้ และจะได้นำไปบอกคนครอบครัวเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม"
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ กล่าวว่า รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เน้นย้ำนโยบาย 4 ข้อ คือ “แม่นยำ รวดเร็ว ทันท่วงที มีประสิทธิภาพ” แม่นยำ เตือน ให้ข้อมูลต้องแม่นยำ โดยต้องเน้นสื่อสารสร้างการรับรู้ รวดเร็ว หน่วยงานเตรียมและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที เมื่อเกิดภาวะวิกฤตต้องดูแลประชาชนได้ทันที เช่น ห้องปลอดฝุ่น WFH และมีประสิทธิภาพ