27 กันยายน 2566 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ในฐานะทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยก่อนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมด้วย 8 นายตำรวจ จะเดินทางมาพบเพื่อปรึกษาหารือทางคดี ที่ถูกออกหมายจับเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โดยทนายนายอนันต์ชัย ตั้งคำถามกับสื่อมวลชนว่า การที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ได้รับเงินจาก มินนี่ แล้ว พ.ต.อ.ภาคภูมิ นำเงินดังกล่าว ไปใช้ซื้อของต่าง ๆ ตนขอถามว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ จะรู้ได้ไงว่า เงินนั้นมาจากเว็บพนัน แล้วพ่อค้าแม่ค้าที่รับเงินต่อจาก พ.ต.อ.ภาคภูมิ จะรู้ได้ไงว่า เป็นเงินที่ผิดกฎหมาย เรื่องนี้มันต้องดูที่เจตนา จะไปเหมารวมแบบนั้นไม่ได้
และการที่มีบุคคลท่านหนึ่งออกมาแฉ ออกมานำข้อมูลส่วนตัวของตำรวจทั้ง 8 มาให้สื่อ มันสมควรแล้วหรือไม่ แล้วได้หรือที่ไปทำแบบนั้น ผมจะตามเช็กบิลทั้งหมด เพราะตอนนี้ “โจ๊กไม่ได้หวานเจี๊ยบแล้วแต่เป็นโจ๊กอัคนีเผาให้เรียบ”
ทนายอนันต์ชัย ยังพูดถึงกรณีที่มีการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ ให้เงินกับนักข่าว ตนเองมองว่า เป็นสินน้ำใจไม่ใช่เป็นสินบน และหากนักข่าวคนใดถูกดำเนินคดี ให้มาบอกผมผมจะจัดการให้ และอย่างพูดไปถึงบุคคลท่านหนึ่ง ที่นำรูปของ เอ ศุภชัย มาโชว์ให้สื่อมวลชนดู ตนมองว่า เอ ศุภชัย เกี่ยวอะไรด้วย แค่ถ่ายรูปคู่กับมินนี่ ทำไมต้องไปสอบปากคำเขา จะทำอะไรควรจะมีเหตุผล ไม่ใช่แค่เอามันเอาสนุก
ส่วนวันนี้ที่ตนเชิญ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และตำรวจทั้ง 8 นาย มา เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมด ทุกอย่างโดยละเอียด เพราะหากจะให้ตนเป็นทนายความ ทุกคนจะต้องพูดความจริงทั้งหมดกับผม เพราะถ้าผมเป็นคนทำคดีก็ไม่ต้องกลัว ถ้าคุณผิด ก็ติดคุกแต่ถ้าคุณไม่ผิด พวกมันก็ติดคุก และขอให้ทุกคนเปิดหน้าท้าชน ตนเองไม่เคยหนักใจ ที่ต้องรับทำคดีนี้ แต่คนที่หนักใจ จะต้องเป็น สอท. และเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด นี้เป็นเรื่องของการดิสเครดิต