svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตม.สืบจับ 3 คดีสำคัญ-เฝ้าระวัง 3 แก๊งต่างชาติ ส่อก่อคดีในไทย

ตม.แถลงจับ 3 คดีสำคัญ แก๊งฮาเลย์ เยอรมัน จับส่งประเทศต้นทาง กลุ่มค้ายาเสพติดจากอินโดฯซุกตัว ย่านบางกะปิ และเครือข่ายใหญ่ขนต่างด้าวกัมพูชา จ.สระแก้ว ด้านรองผู้การสืบ ตม. เผย จับต่างชาติตั้งกลุ่มมอเตอร์ไซค์บิ๊กไซส์ 3 แก๊ง ส่อเคลื่อนไหวผิดกฎหมาย

24 สิงหาคม 2566 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม.,พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ จำนวน 3 คดี ดังนี้

คดีแรก นายเดนนิส (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา สัญชาติเยอรมัน ส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อนำตัวไปรับโทษตามคำพิพากษาในความผิดอาญา ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยอัยการสูงสุด ยื่นคำร้องขอศาล อาญาออกหมายจับไว้แล้ว

ทั้งนี้ นายเดนนิส เข้ามาประเทศไทยด้วยวีซ่าชั่วคราว (NON-90) ตั้งแต่กรกฎาคม ที่ผ่านมา และได้รับการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 แล้วหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย

ตม.สืบจับ 3 คดีสำคัญ-เฝ้าระวัง 3 แก๊งต่างชาติ ส่อก่อคดีในไทย

สำหรับพฤติการณ์ นายเดนนิส เป็นสมาชิก “Hells Angels” แก๊งมอเตอร์ไซค์นอกกฎหมาย จากเมืองคีล สาธารณรัฐเยอรมนี ร่วมกับพวก 2 คน ลอบทำร้ายผู้เสียหาย ที่บริเวณสระว่ายน้ำสาธารณะ เมืองคีล โดยให้แฟนสาว เป็นนกต่อลวงผู้เสียหายเข้าไปที่สระว่ายน้ำแล้วฉวยโอกาสยิงที่ต้นขา ซ้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนีเข้าประเทศไทย

คดีที่ 2 เป็นการจับกุม 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.นายสตีเว่น อายุ 28 ปี 2.นายวายู อายุ 30 ปี และ 3.นางพิสก้า อายุ 26 ปี  สมาชิกแก๊งยาเสพติดรายใหญ่จากอินโดนีเซีย ผู้ต้องหารายสำคัญ ที่รัฐบาลอินโดนีเซีย ออกหมายจับพร้อมเพิกถอนหนังสือเดินทาง ทั้ง 3 ราย

ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายเข้าประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด ผบก.สส.สตม. จึงอนุมัติให้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นบุคคลที่รัฐบาลต่างประเทศออกหมายจับและถูกขึ้นบัญชีเป็นบุคคลเฝ้าระวัง ก่อนสั่งการให้ร่วมกับ บช.ปส. ร่วมติดตามจับกุม

ทั้งนี้ นายวายูและนางพิสก้า หลบหนีซ่อนตัวอยู่ในคอนโดฯ ย่านบางกะปิ จึงนำกำลังเ้าจับกุมเพื่อดำเนินการส่งกลับประเทศอินโดนีเซีย

ตม.สืบจับ 3 คดีสำคัญ-เฝ้าระวัง 3 แก๊งต่างชาติ ส่อก่อคดีในไทย

ส่วนผู้ต้องหาอีกราย(นายสตีเว่น) ซึ่งตม.จันทบุรี ตรวจพบชื่อนายสตีเว่น เป็นบุคคลเฝ้าระวัง เตรียมเดินทางออกนอกประเทศ และเป็นบุคคลเดียวกับที่ บก.สส.สตม.เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไว้ จึงเข้าจับกุม นำส่ง กก.3 บก.สส.สตม.เพื่อดำเนินการต่อไป

คดีที่ 3 เป็นการจับกุม “แก้วเขาดิน” เครือข่ายลักลอบขนแรงงานต่างด้าว(กัมพูชา)รายใหญ่  ในพื้นที่สระแก้ว รวมคนไทยและชาวกัมพูชา 14 คน ซึ่งการสืบสวนพบหญิงชาวกัมพูชา ชื่อ นางแก้ว (นามสมมติ) ประกอบกิจการรถตู้ ในพื้นที่ใกล้ด่านชายแดน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ประกาศโฆษณาออนไลน์ระบุว่าสามารถพาชาวกัมพูชาเดินทางเข้าออกประเทศไทย ผ่านด่านพรมแดนได้อย่างถูกต้องตามกฎมาย แต่ข้อมูลเชิงลึกระบุ เครือข่ายของนางแก้วลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

จากการสืบสวน พบเครือข่ายนางแก้วมีการลักลอบขนคนจำนวนมาก จากพื้นที่ ต.คลองหาด จ.สระแก้ว เข้ากรุงเทพฯ ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่บริเวณถนนหมายเลข 3259 หน้าหน่วยพิทักษ์ป่าซับวัวแดง ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว พบรถตู้ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน กรุงเทพฯ และรถตู้ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน จ.ระยอง ขับอยู่ในเส้นทาง มีลักษณะคล้ายกับรถตู้ที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ของนางแก้ว

เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตาม ก่อนแสดงตัวขอตรวจสอบรถตู้ทั้ง 2 คัน พบว่า คันแรก มี นายประดิษฐ์ (สัญชาติไทย) เป็นคนขับ ภายในมีคนต่างด้าวจำนวน 5 คน ส่วนคันที่ 2 มีนายมนตรี (สัญชาติไทย) เป็นคนขับ นายบำเหน็จ (สัญชาติไทย) เป็นผู้โดยสารและเจ้าของรถ นายชานนท์ (สัญชาติไทย) เป็นเพื่อนชายคนสนิทของนางแก้ว โดยสารมาด้วย นอกจากนี้ ยังมีชาวกัมพูชาอีก 5 ราย มี 1 รายเท่านั้น ที่แสดงเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งก็คือนางแก้ว หญิงกัมพูชา หัวหน้าเครือข่าย

ตม.สืบจับ 3 คดีสำคัญ-เฝ้าระวัง 3 แก๊งต่างชาติ ส่อก่อคดีในไทย

จากการสอบสวน ทราบว่า นางแก้วและนายชานนท์ จะทำหน้าที่ติดต่อประสานงานพาคนกัมพูชาเดินทางโดยรถตู้ ข้ามชายแดนผ่านช่องทางธรรมชาติเข้าประเทศไทย โดยเสียเงินคนละ 3,500 บาท ส่วนคนไทยอีก 3 คนทำหน้าที่เป็นคนขับรถตู้ และเมื่อส่งคนต่างด้าวเข้ากรุงเทพแล้ว นายชานนท์ จะแบ่งค่าจ้างให้ คนละ 1,000 บาท

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาคนไทยทั้ง 4 ราย และนางแก้ว ว่า “ร่วมกันให้การช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือรับไว้ด้วยประการ ใดๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ส่วนคนกัมพูชา 9 ราย แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคล ต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่ง พงส.กก.สส.บก.ตม.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตม.สืบจับ 3 คดีสำคัญ-เฝ้าระวัง 3 แก๊งต่างชาติ ส่อก่อคดีในไทย

พ.ต.อ.รัฐโชติ ระบุถึงกรณีแก๊งฮาเลย์ที่เข้ามาในประเทศไทย ว่า สำหรับแก๊งมอเตอร์ไซค์ใหญ่ระดับโลกที่เข้าข่ายกระทำความผิด อยู่ที่ 4-5 แก๊ง โดยอันดับ 1 คือ แก๊ง Hell Angels อันดับ 2 คือ Bandidos อันดับ 3 คือ Mongols และ Outlaws ส่วนที่ตำรวจสืบสวนว่ามีการตั้งแก๊งในไทยคือ Hell Angels , Bandidos และ Outlaws บางส่วนมีความเกี่ยวพันในกรณีเรียกค่าไถ่ตามที่เคยปรากฎมาแล้ว ทาง บก.สส.สตม.ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้มข้นในการเฝ้าจับตา และเฝ้าระวังในกลุ่มแก๊งดังกล่าว

พ.ต.อ.รัฐโชติ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่มีการทำโครงข่ายจับตาทั้ง 3 แก๊งนี้อย่างใกล้ชิด ใครที่เคยถูกจับกุมจะมีการสอบสวนขยายผลว่า การเข้าประเทศเข้ามาอย่างไร รวมถึงการจัดตั้งองค์กร ความเกี่ยวพันกับบุคคลในองค์กร รวมถึงการบริหารจัดการภายในองค์กรเป็นอย่างไร เจ้าหน้าที่ได้มีการสร้างเป็นระบบไว้แล้ว สำหรับในกรณีนี้เป็นการจับตามหมายส่งให้ประเทศต้นทาง ซึ่งทางตำรวจก็จะมีการสอบสวนขยายผลเช่นกันไม่มีการละเลย