
13 กรกฎาคม 2566 จากกรณีสะเทือนขวัญ "แก๊งเยอรมัน" ก่อเหตุฆ่าหั่นร่างอำพรางในตู้แช่แข็ง มี "โอลาฟ" สมาชิก แก๊งOutlaws เป็นหัวโจก เหยื่อคือ นายฮันส์ ปีเตอร์แรลเตอร์ มัค ( MR.HANS PETER RALTER MACK ) หรือ ฮันส์ ปีเตอร์ อายุ 62 ปี นักธุรกิจชาวเยอรมัน ที่หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมรถเบนซ์หรู ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.66
ต่อมาทางครอบครัวเข้าพบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอเร่งติดตามคดี กระทั่งช่วงดึกวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจแกะรอยกล้องวงจรปิด จากจุดที่คนร้ายนำรถเบนซ์มาจอดรถทิ้งไว้ ไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง พบตู้เเช่เย็นถูกปิดด้วยผ้าเทปอย่างเเน่นหนา พบร่างมนุษย์อยู่ภายใน ผลพิสูจน์อัตลักษณ์ ยืนยันว่าคือร่างของ "ฮันส์ ปีเตอร์"
ตำรวจ ขอศาลออกมหายจับ 3 ผู้ต้องหาในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน" เเละ "ปิดบังซ่อนเร้น อำพรางศพ" โดยใช้เวลาไม่นาน สามารถจับกุมตัว นายโอลาฟ สัญชาติเยอรมัน พร้อมควบคุมตัว นางนิโคล ชาวเยอรมัน ผู้อยู่ในบ้านเช่าที่เก็บตู้แช่แข็ง และ นางเพธา นายหน้านางนกต่อ ที่อยู่ "ฮันส์ ปีเตอร์" เป็นคนสุดท้าย สอบสวนที่ สภ.หนองปรือ แต่ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ
ต่อมาตำรวจตามจับกุม นายซาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติปากีสถาน อีกหนึ่งในแก๊งเยอรมัน ได้ที่จ.กาญจนบุรี ขณะกำลังเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยังคงให้การปฏิเสธเช่นกัน ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุดวันนี้ (13 ก.ค.) เพจเฟซบุ๊ก "ดาวแปดแฉก" โพสต์ข้อความพร้อมภาพ โดยระบุว่าเป็นหลักฐานสำคัญ ในการมัดตัว "แก๊งเยอรมัน" ในการก่อเหตุที่มีการตระเตรียมการเป็นอย่างดี โดยมีเนื้อหาระบุว่า...
หลักฐานมัดแก๊งฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน
หลังจากตำรวจจับแจ้งข้อหากับแก๊งฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน เหตุเกิดพื้นที่ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี แม้ผู้ก่อเหตุบางส่วนยังไม่ยอมรับสารภาพในชั้นสืบสวนสอบสวน แต่ก็อาจต้องจำนนต่อพยานหลักฐาน
นี่คือส่วนหนึ่งจากพยานแวดล้อมสอดคล้องกับพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เช่น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง เอส 23 อัลตร้า สีเทา หมายเลข IMEI 1 : 3578226121xxxxx , IMEI 2 : 3587107121xxxxx ซึ่งอยู่ในบ้านพบร่างเหยื่อที่ถูกฆ่าหั่นศพ หลังจากแช่แข็งร่างเหยื่อในตู้แช่ มีกล่องโทรศัพท์, ใบเสร็จ ซื้อในชื่อ นายโอลาฟ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2566 เวลา 18.17 น. ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งภายในห้างแห่งหนึ่ง ย่านพัทยาใต้ จ.ชลบุรี
ชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ตามวันเวลาดังกล่าว ปรากฏภาพนายโอลาฟ และนางเพธา เดินทางซื้อโทรศัพท์มือถือจริง อีกทั้งตรวจสอบใบขายสินค้า พบว่าชื่อผู้ซื้อและหมายเลขอีมี่ ตรงกันกับเครื่องและใบเสร็จที่พบในบ้านจริง
ขณะเดียวกันร้านขายเลื่อยแห่งหนึ่ง ย่านพัทยาเหนือ ผู้ขายให้ข้อมูลว่า นายโอลาฟ และนายซาฮ์รูค มาซื้อเลื่อยที่ร้านดังกล่าวในวันที่ 7 ก.ค.2566 เวลาประมาณ 13.00 น. จริง และได้เทียบเลื่อยยนต์ของกลางในคดี ซีเรียลนัมเบอร์ DUC254 2022.7 0278017 ตรงกับสมุดคุมการขายของร้าน รายการที่แก๊งฆ่าหั่นศพไปซื้อจริง.
ขอบคุณภาพ :: เจ้าของภาพ #ชายชาวเยอรมัน #ฆ่าหั่นศพ #ตำรวจภูธรภาค2 #ดาวแปดแฉก
นอกจากนี้ แอดมิน "ดาวแปดแฉ" ยังระบุในช่องแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า..
ความยินยอมสมัครใจจากเจ้าของบัญชีคนหนึ่ง ถอนเงิน 1,250,000 บาท ซึ่งเป็นเงินของเหยื่อนักธุรกิจชาวเยอรมันที่โอนไป โดยให้ตำรวจนำมาคืนให้ญาติผู้เสียหาย (ขอบคุณภาพ :: เจ้าของภาพ)
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก "ดาวแปดแฉก"