svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

ซาฮ์รูค ร่วมแก๊งเยอรมัน ครอบครัวมั่นใจไม่ได้ร่วมบงการ หั่น"ฮันส์ ปีเตอร์"

ครอบครัวซาฮ์รูค แก๊งเยอรมัน ฆ่าหั่นร่าง "ฮันส์ ปีเตอร์" นักธุรกิจ เศรษฐีเยอรมัน มั่นใจลูกชายไม่ได้เป็นตัวบงการ เผยถูก"โอลาฟ"ข่มขู่ หากไม่ทำตามคำสั่งจะอุ้มเมีย-น้องสาวไปฝั่งเขมร

ซาฮ์รูค ร่วมแก๊งเยอรมัน ครอบครัวมั่นใจไม่ได้ร่วมบงการ หั่น"ฮันส์ ปีเตอร์"
13 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้า "แก๊งเยอรมัน" ก่อคดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ "ฮันสฺ์ ปีเตอร์" อำพรางร่างในตู้แช่แข็ง เพียงช่วงข้ามคืนชุดทำงานของ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนภาค 2 และ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผู้กำกับการสืบสวน ภูธรจังหวัดชลบุรี ได้ควบคุมตัว "ซาฮ์รูค คารีม อุดดิน" อายุ 27 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติปากีสถาน ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฆ่า และอำพรางซ่อนเร้นศพ "ฮันส์ ปีเตอร์" นักธุรกิจชาวเยอรมัน ที่ถูกฆ่าหั่นศพยัดตู้แช่เย็นอย่างโหดเหี้ยม

หลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ประสานงานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ให้เบาะแสแหล่งกบดานที่ซุกซ่อนตัว กระทั่งติดตามจับกุมตัวได้ขณะกำลังเตรียมตัวหลบหนีข้ามชายแดนด้าน จ.กาญจนบุรี 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ซาฮ์รูค ร่วมแก๊งเยอรมัน ครอบครัวมั่นใจไม่ได้ร่วมบงการ หั่น"ฮันส์ ปีเตอร์"

เมื่อตำรวจควบคุมตัว นายซาฮ์รูค พัวพัน "แก๊งเยอรมัน" เดินทางมาถึง สภ.หนองปรือ เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ โดยมี พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผู้กำกับการ สภ.หนองปรือ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน รอรับตัวจากชุดจับกุมเพื่อสานงานต่อเรื่องการสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจได้นำตัวเข้าห้องควบคุมทันที 

ระหว่างทาง นายซาฮ์รูค พยายามพูดอะไรบางอย่างขึ้น แต่เมื่อเจ้าตัวเห็นพ่อแม่และพี่ชาย ที่เดินทางจากจังหวัดภูเก็ต เพื่อมาให้กำลังใจและแสดงความเป็นห่วง พร้อมส่งทีมทนายให้การช่วยเหลือเรื่องคดีความ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะอื้นและร้องไห้ออกมาทันที ก่อนจะเดิมก้มหน้าเข้าห้องคุมไปพบกับ นายโอลาฟ ที่ถูกคุมขังอยู่ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความหดหู่ให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก 
ซาฮ์รูค ร่วมแก๊งเยอรมัน ครอบครัวมั่นใจไม่ได้ร่วมบงการ หั่น"ฮันส์ ปีเตอร์"

จากการพูดคุยกับครอบครัวของ นายซาฮ์รูค ประกอบด้วย พ่อแม่ และพี่ชาย โดยแม่เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว นายซาฮ์รูค ลูกชาย เริ่มให้ครอบครัวทำความรู้จักกับ นางเพธา นายหน้าซื้อขายที่ดินชาวเยอรมัน เนื่องจากลูกชายอยากทำงานนายหน้าขายที่ดินในจังหวัดภูเก็ต และอยากได้เงินเปอร์เซ็นในการค้าขายที่ดิน

หลังจากลูกชายทำงานกับนางเพธา ได้ระยะหนึ่ง และรู้ว่าครอบครัวประกอบธุรกิจนำเข้าอาหารทะเล นางเพธาได้ตะล่อมให้ลูกชายนัดพ่อเข้ามาพูดคุยเพื่อร่วมทำธุรกิจด้วย แต่เมื่อพ่อไปถึงเมืองพัทยาและคุยกัน รู้สึกว่าไม่โอเคตั้งแต่เริ่มรู้จัก จึงไม่ร่วมทำธุรกิจด้วยกัน หลังจากนั้นพ่อและแม่ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกเลย พร้อมทั้งเตือนให้ลูกชายเลิกคบค้าสมาคมด้วย จนมารู้ข่าวในภายหลังว่าลูกชายยังพูดคุยร่วมทำงานกับนางเพธา เพียงเพราะลูกชายต้องการเงินค่าคอมมิชชั่นจากการค้าขายที่ดิน 
ครอบครัวมั่นใจลุกชายไม่มีส่วนบงการฆ่า
ส่วนนายโอลาฟ ยืนยันไม่เคยรู้จักกับคนในครอบครัวมาก่อน กระทั่งมารู้ข่าวว่าลูกชายไปร่วมก่อคดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน ยอมรับว่าขณะนั้นจนถึงบัดนี้ รู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก นิสัยใจคอตัวของลูกชายซึ่งพูดแบบไม่ได้เข้าข้าง ส่วนตัวในฐานะแม่ ลูกชายจะไม่พูดโกหกกับแม่แน่นอน โดยมีการคุยล่าสุดตอนลูกชายถูกจับอยู่ที่กาญจนบุรี  ลูกชายโทรศัพท์มาแล้วร้องไห้

ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ โดยมีใจความว่า “แม่ ผมขอสาบาน ผมไม่ได้ทำ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมโดนข่มขู่ ผมเป็นห่วงน้องผม และเป็นห่วงเมียผม มันขู่จะเอาเมียกับน้องสาวไปที่เขมร หากไม่ทำตามที่สั่ง กูจะอุ้มน้องมึงไปกับเมียมึง” ก่อนที่เขาจะตัดสายไปเอง 

ส่วนสาเหตุที่นายโอลาฟข่มขู่มานั้น เหมือนนายโอลาฟ จะรู้ดีว่า ตัวเมียลูกชายและน้องสาวพักอาศัยอยู่ที่ไหน เพราะวันที่นายโอลาฟโดนจับ เห็นแฟนลูกชายบอกว่าอยู่ใกล้กับที่พัก  ส่วนลูกชาย โดนข่มขู่ให้ไปทำอะไร ยังไม่มีการพูดคุยกัน และเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายจะมาก่อคดีสะเทือนขวัญแบบนี้ 
นายซาฮ์รูค ระบุถูกข่มขู่ จึงจำเป็นต้องร่วมขบวนการ "แก๊งเยอรมัน"
ขณะที่ นายชาลี พี่ชายของนายซาฮ์รูค กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ให้เช็คประวัติน้องชายได้เลย ว่าไม่เคยมีประวัติเสียหาย และอยากให้ไปถามเพื่อนน้องชายที่ภูเก็ตได้เลยว่า น้องชายไม่ใช่คนแบบนั้น แค่ทรงเขาให้ ไม่ใช่ว่าเขาจะทำ และชอบในลายสัก พร้อมชื่นชอบการขับขี่รถบิ๊กไบค์  ซึ่งตัวน้องชายก็มีเพื่อนๆ ที่ขับอยู่หลายคน 

ส่วนความสนิทสนมในตัวน้องชายและนายโอลาฟ ตรงนี้คนในครอบครัวไม่มีใครรู้ เพราะน้องชายมีนิสัยชอบปลีกวิเวก มีเพื่อนพ้องอยู่เยอะ ชอบหารถบิ๊กไบค์มือสองไปขายให้กับลูกค้า เพื่อให้ได้ค่าคอมมิชชั่น เพื่อนำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน และยังเชื่อมั่นในตัวน้องชายอยู่เสมอว่าไม่ได้เป็นคนทำ 

อย่างไรก็ดี คงต้องรอให้มีการซักถามพูดคุยกันอีกครั้ง เนื่องจากน้องชายถูกนายโอลาฟข่มขู่มาด้วย และน้องชายเพิ่งอายุ 27 ปี ทั้งยังมีความกังวลจากที่พบเห็นข่าวแก๊ง “Outlaws” ที่สำคัญคือนายโอลาฟถ้าทำได้ถึงขนาดนี้ มีอะไรที่นายโอลาฟจะทำไม่ได้ แก๊งนี้เป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่ และไม่มีใครรู้ได้ว่า

หลังจากนี้แก๊งเหล่านี้จะทำอะไร ซึ่งความน่ากลัวของแก๊งนี้เริ่มออกมาให้คนเห็นมากขึ้น และให้ทุกคนลองใช้ตรรกะคิดว่า ถ้าน้องชายเป็นคนฆ่าจริง จะนั่งท้ายกระบะเปิดหน้าตัวเองทำไม โดยไม่มีอะไรปิดบังหรือปกปิดใบหน้า ถ้ารู้ว่าข้างในตู้แช่มีศพ คงไม่มีใครโง่ไปทำแบบนี้อย่างแน่นอน 

ด้าน ทนายเลี่ยม ทุ่งสง ซึ่งรับหน้าที่เป็นทนายความส่วนตัวของ นายซาฮ์รูค เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับตัวนายซาฮ์รูค โดยช่วงบ่าย (13) จะเดินทางมาซักถามเหตุการณ์อีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก ทุกอย่างเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ เบื้องต้น นายชาฮ์รูค ยังปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังจากได้พูดคุยกับนายซาฮ์รูค กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จะมีความกระจ่างขึ้น
ซาฮ์รูค ร่วมแก๊งเยอรมัน ครอบครัวมั่นใจไม่ได้ร่วมบงการ หั่น"ฮันส์ ปีเตอร์"
ซาฮ์รูค ร่วมแก๊งเยอรมัน ครอบครัวมั่นใจไม่ได้ร่วมบงการ หั่น"ฮันส์ ปีเตอร์"