12 มิถุนายน 2566 จากกรณีรายการข่าวชื่อดัง ได้มีการเปิดหลักฐานคลิปวิดีโอ ประชุมผู้ถือหุ้นสื่อ ไอทีวี นั้น ล่าสุดทางด้าน นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นว่า เบื้องต้นจะมีการแถลงข่าวในวันนี้ ที่ทำการพรรคก้าวไกล โดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค แต่ยืนยันว่าเราพร้อมสู้คดีทุกรูปแบบ และยิ่งมีการเปิดเผยออกมาเช่นนี้ ก็แปลได้ว่ามีขบวนการทางการเมืองที่เกิดขึ้นจริง
ในขบวนการดังกล่าว คงต้องไปดูว่าการที่พรรคก้าวไกลกำลังจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเราทำสำเร็จ เชื่อได้ว่าจะมีบุคคลบางกลุ่ม ที่เสียผลประโยชน์ และพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้เราจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เนื่องจากถ้าเราจัดตั้งได้สำเร็จ ในบางนโยบายอาจจะไปทำให้กลุ่มคนเหล่านี้เสียผลประโยชน์ของตัวเอง
นายรังสิมันต์ ระบุอีกว่า เรามั่นใจในเจตจำนงของประชาชนที่ไปออกเสียงเลือกตั้ง และการที่เราได้ร่วมลงเรือกับพรรคร่วมอื่นๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล รวมเสียงกว่า 313 เสียงนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งยืนยันว่าเสียงประชาชนก็ควรได้รับการเคารพ หากประชาชนไม่พอใจในการทำงานของเรา สุดท้ายเขาก็ไม่เลือกเราก็ได้ หรือไปเลือกพรรคอื่น แต่อย่าใช้วิธีการสกปรก อย่าใช้วิธีการบิดเบือน ปลอมแปลงเอกสาร ที่อาจจะเป็นเจตนา ที่ทำให้เราไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาล
เชื่อว่าการเมืองตลอดช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา มีความพยายามกลั่นแกล้งทางการเมือง วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หวังว่าคนที่คิดจะหยุดพฤติกรรมต่างๆ พร้อมขอสงวนการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
นายรังสิมันต์ ระบุว่า คลิปวิดีโอดังกล่าว คงไม่มีการตัดต่อ เพราะมีการพูดชัดเจนอยู่แล้ว อีกทั้งตนเชื่อมั่นในพี่แยม เท่าที่เห็นผลงานที่ผ่านมา ทุกคนทราบดีในการทำงานของเธอ และเรื่องการตัดต่อนั้น ต้องถามว่าพี่แยมและช่อง 3 จะได้อะไรจากเรื่องนี้ ค่อนข้างเชื่อมั่นในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คงต้องชี้แจง เพราะมันมีความผิดตามกฎหมายจริง การบันทึกการประชุมเท็จเช่นนี้ ตาม พ.ร.บ.กฎหมายบริษัทมหาชน จำกัด มีความผิด และสิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกลและพิธานั้น ก็มีความพยายามฟื้นคืนชีพไอทีวี เพื่อมาทำลายกันทางการเมือง
ส่วนกรณีที่นายนิกม์ แสงศิรินาวิน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าการประชุมออนไลน์ เมื่อเดือนเมษายนนั้น ปรากฏความตามบันทึกรายงานการประชุมจริง ว่าบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตนไม่แน่ใจว่าเจตนาคืออะไร แต่ว่าทุกอย่างมันมีคลิปวิดีโอที่ชัดเจนอยู่ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และคิดว่าเมื่อคืน ค่อนข้างมีความชัดเจนแล้วว่าข้อเท็จจริงในเรื่องหุ้นไอทีวีเป็นอย่างไรกันแน่
ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ ยังระบุปิดท้ายถึงเรื่องที่ กกต.กำหนดไต่สวนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในมาตรา 151 ว่า พูดกันอย่างตรงไปตรงมา มันคือการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง ยืนยันว่าเราพร้อมเข้าสู่กระบวนการ และพิสูจน์ตัวเอง แต่ก็หวังว่ากระบวนการทั้งหลายที่จะใช้กับเรา ขอให้เป็นกระบวนการทางกฏหมายจริงๆ ส่วนตัวเราไม่กังวล
หวังว่ากรณีที่ปรากฏเมื่อคืนนี้ ฝ่ายต่างๆที่คิดว่าจะใช้กรณีนี้ในการทำร้ายกันทางการเมือง ควรจะพิจารณาได้แล้ว ว่าควรเลิก อย่าทำลายกระบวนการยุติธรรม หรือกระบวนการที่ประชาชนไปใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งกันมา อย่าทำให้ประเทศไทยแย่ไปกว่านี้