7 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้าคดีที่ ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี พา น.ส.จี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี พร้อมมารดา ร้องกองปราบฯ เอาผิด โจ๋รายหนึ่ง ที่เป็นลูกผู้มีอิทธิพล ล่อลวงไปนั่งเล่น ในห้องพักของน้องสาวผู้ก่อเหตุ ก่อนใช้อาวุธปืนจี้บังคับใส่กุญแจมือและสูบกัญชา พร้อมใช้กำลังล่วงละเมิดทางเพศ เหตุเกิดเคหะร่มเกล้า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยหลังเกิดเหตุ ยังมีคนอ้างตัวเป็นตำรวจสายสืบ โทรศัพท์มาขอเคลียร์คดี ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สน.ร่มเกล้า และตำรวจกองปราบ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุดวันนี้ ทนายเกรียงศักดิ์ ได้พาผู้เสียหายหญิงอายุ 15 ปี พร้อมมารดา เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ สน.ร่มเกล้า พร้อมเปิดเผยภายหลังว่า หลังแจ้งความกับตำรวจกองปราบ ฝั่งผู้ปกครองคู่กรณี พยายามโทรมาขอเคลียร์ ขอให้ไปเจรจายอมความกันที่โรงพัก แต่ยังไม่ทันมีการเสนอตัวเงิน ฝ่ายมารดาของผู้เสียหายได้วางสายไปก่อน เพราะความหวาดกลัว
อีกทั้งคดีนี้ไม่สามารถยอมความได้ เพราะเป็นการข่มขืนกระทำชำเราเยาวชนอายุ 15 ปี ดังนั้น หากไม่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็คงไม่สามารถไกล่เกลี่ยเพื่อยอมความได้ ซึ่งหลังจากให้ปากคำเสร็จ เชื่อว่าพนักงานสอบสวน จะสามารถออกหมายจับผู้กระทำความผิด 1 คนได้เร็ว ๆ นี้
ด้าน นายนิกม์ แสงศิรินาวิน อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) บอกว่า นอกจากการโทรมาคุกคามแล้ว คู่กรณียังส่งคนมาคุกคามเคาะประตูถึงห้อง เพื่อขอให้รับเงินแลกกับการยอมความคดีนี้ และยังบอกอีกว่า ถ้าผู้เสียหายและครอบครัว ยังกล้าพักอาศัยอยู่ที่เดิมได้ก็อยู่ต่อไป สร้างความหวาดกลัวแก่ครอบครัวผู้เสียหายเป็นอย่างมาก จนต้องย้ายออกแล้วไปพักอาศัยอยู่กับ เจ้าหน้าที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม” OSCC เป็นการชั่วคราว
ขอย้ำว่า คดีนี้ไม่ได้มีผู้ที่ต้องถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว แต่บุคคลที่อยู่ภายในห้องขณะเกิดเหตุ ไม่ยอมช่วยเหลือ ก็ต้องมีความผิดและถูกดำเนินคดีด้วย นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนผู้เสียหายอีกคนที่อยู่ด้วยกัน ไม่ทราบว่า ถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วยหรือไม่ แต่หากตกเป็นเหยื่อ ก็ขอให้ผู้ปกครองพาเข้าแจ้งความทันที เพื่อให้บุคคลที่กระทำความผิดได้รับโทษ