ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.20 น. 23 ตุลาคม 2565 พ.ต.ท.เกล้า พลนุ้ย สว.(สอบสวน) สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พร้อมด้วย นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล เจ้าหน้าที่ หน่วยบรรเทาสาธารณภัย อบจ.พัทลุง และนักประดาน้ำ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจมน้ำเสียชีวิต 1 ศพ สูญหาย 1 ราย โดยเหตุเกิดที่ฝายเหมืองหนำ ท้องที่ ม.3 ต.ควนขนุน รอยต่อ ม.8 ตงเขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งก่อนนี้พลเมืองดี ได้ช่วยกันดำน้ำหาร่างผู้จมน้ำเสียชีวิต 1 รายแล้ว ทราบชื่อภายหลังว่า นางปิยะนุช เภาเส็น อายุ 38 ปี นอกจากนั้น ยังสามารถช่วยเหลือผู้ตกลงไปในฝายดังกล่าวอีก 3 ราย และนำส่ง รพ.เขาชัยสน ไปก่อนแล้ว ทราบชื่อภายหลังว่า นางสุภาพร มรรควัน อายุ 40 ปี ด.ญ.เกวรินทร์ เภาเส็น อายุ 8 ปี และ ด.ช.เฟิร์ส อายุ 10 ปี ส่วนนายธีรยุธ เภาเส็น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.8 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน โดยเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำช่วยกันค้นหาใช้เวลา 3ชั่วโมงก่อนพบจมน้ำเสียชีวิตตรงท้ายฝายดังกล่าว
จากการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ครอบครัวของนายธีรวุฒิ ไปทำงานในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันนี้ ได้นำภรรยาและลูก ด.ญ.เกวรินทร์ เด็กชาย ภูมิพัฒน์ อายุ 8 ปี มาเยี่ยมบ้านเกิด ก่อนชวนเด็กๆไปเล่นน้ำหน้าฝาย โดยนางสุภาพร มรรควัน อายุ 40 ปี พี่สะใภ้มาด้วย ขณะที่เด็ก 2 คน ได้ลงไปเล่นน้ำบนคันฝายพร้อมนางสุภาพร แต่ทั้ง 3 คน ได้ลื่นลงไปในฝาย ส่วนนายธีรยุธ เภาเส็น ผู้เป็นพ่อ และนางปิยนุช ผู้เป็นแม่ ได้กระโดลงไปช่วยเหลือทั้ง 3 คน ในขณะที่พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ได้ลงไปช่วยเหลือ แต่นางปิยนุชกลับจมน้ำเสียชีวิต พร้อมกับสามี ก่อนเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปตรวจพิสูจน์ฯ ณ โรงพยาบาลเขาชัยสน ในเวลาต่อมา
ขณะที่นายประเสร็ฐ เภาเส็น อายุ 37 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่นายธีรวุฒิ ผู้เสียชีวิต พร้อมภรรยาลูกและหลานพร้อมป้าสะใภ้ ได้ขับรถยนต์มาจอดตรงด้านข้างฝาย ตนได้ขับรถตามหลังมา แล้วจอด ได้แวะคุย ขณะที่คุยกันลูกสาวพร้อมลูกชายได้เล่นน้ำบนสันฝายก่อนลื่นตกลงไปในน้ำ ตนได้ตะโกนบอกว่า "ไอ้เขียวลูกตกน้ำ" ก่อนนายธีระวุฒิกระโดดลงไปช่วย พร้อมกับภรรยา โดยนายธีรวุฒิได้กระโดดลงไปกอดลูกเอาไว้โดยยกขึ้นก่อนที่ตนเองลงไปช่วยเด็กขึ้นมาแต่นายธีรวุฒิจมน้ำหาย ส่วนแม่และป้าสะใภ้ ได้ตะโกนให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรีบมาช่วยเหลือไว้ได้ แต่ช่วยแม่ของเด็กไม่ทันเสียชีวิตดังกล่าว