
3 เมษายน 2566 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ภาพพร้อมคลิปวิดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า "ฝากแจ้งโหนกระแสด้วยครับ จอดรถขวางทางเข้าบ้านจนเข้าไม่ได้ บอกผมจอดได้เป็นที่ส่วนรวม เจ้าของบ้านไม่มีสิทธิ์ ตรรกะป่วย อยากดังทั้งครอบครัวก็จัดให้ครับ" โดยก่อนหน้านี้ เจ้าของบ้านได้เขียนจดหมายไปติดไว้ที่หน้ารถคันดังกล่าว ว่า "กรุณาอย่าจอดหน้าบ้านผมนะครับ ผมไม่อนุญาต เตือนครั้งที่ 1 , 31 มีนาคม 66 จงเคารพในสิทธิ์ของคนอื่น พื้นฐานความเป็นมนุษย์ ขอบคุณครับ"
ขณะเดียวกัน เจ้าของรถคันดังกล่าว ได้ตอบกลับว่า "ถนนสาธารณะ ไปศึกษามาใหม่ (สมอง)" จากนั้น ครอบครัว ซึ่งไม่พอใจถูกจดหมายเตือน ได้ออกมาเจรจาและกลายเป็นการโต้เถียงกับเจ้าของจดหมายว่า สาเหตุที่นำรถมาจอดเพราะเจ้าของบ้านไม่ค่อยอยู่ มารดน้ำต้นไม้แล้วกลับ และยังอ้างว่าเป็นที่ส่วนรวม ตนเองก็จ่ายค่าส่วนกลาง สามารถจอดได้ และยังบอกเจ้าของบ้านอีกว่า หากเจ้าของบ้านมาอยู่ทุกวันคงไม่จอด และแนะนำว่า หากต่อไปจะเข้ามาจอด ให้เดินมาบอกได้ ไม่ใช่เขียนจดหมายแบบนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับเรื่องการจอดรถขวางทางเข้า-ออก บ้านผู้อื่นนั้น เฟซบุ๊ก กองปราบปราม ได้โพสต์รูปภาพและข้อความ ระบุว่า ปัญหาการจอดรถกีดขวาง หรือการจอดรถในที่ห้ามจอดเป็นถือเป็นปัญหาที่พบกันได้บ่อยครั้ง สำหรับบางท่านอาจเห็นว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยที่สามารถเจรจาตกลงกันได้ แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่คู่กรณีไม่สามารถตกลงกันได้จนเกิดเป็นเหตุบานปลาย มีการทำลายทรัพย์สิน หรือถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันตามที่เป็นข่าวกันก็มีมาแล้ว
ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งอาจเกิดมาจากปริมาณรถที่มากเกินไปบนท้องถนน ตามข้อมูลของกรมการขนส่ง วันที่ 30 มิ.ย.62 พบว่า มีการจดทะเบียนทั้งรถจักรยานยนต์ รวมถึงรถยนต์ มีจำนวนสะสมสูงถึง 40 ล้านคันทั่วประเทศ โดยในพื้นที่ กทม. เอง มีปริมาณรถมากกว่า 10 ล้านคันเลยทีเดียว
ซึ่งตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 55 ได้ระบุพื้นที่ห้ามจอดไว้ ซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้นได้คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวผู้ใช้รถเอง รวมถึงผู้อื่นที่ใช้ถนน หรือทางร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้หากผู้ใช้รถได้จอดรถขวางทางเข้า-ออกบ้านของผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ฐานก่อความเดือนร้อนรำคาญ ที่มีอัตราโทษ จำคุก ไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท และผู้เสียหายยังสามารถเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งได้อีกด้วย
ดังนั้น การจอดรถผู้ขับขี่ พึงทำตามข้อกำหนดที่กฎหมายได้วางไว้ เพื่อไม่ให้รบกวนสิทธิของผู้อื่น ซึ่งอาจถูกดำเนินคดีทั้งในทางคดีอาญา และทางแพ่งอีกด้วย
ข้อมูลอ้างอิง : กรมขนส่งทางบก
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : กองปราบปราม