25 มีนาคม 2566 พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผบก.ตม.1 รักษาราชการแทน ผกก สืบสวน บก.ตม.1 มอบหมาย ให้ พ.ต.ท.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ออกสืบสวนหาข่าว กรณีได้รับการร้องเรียนจากชาวต่างชาติ ว่า ถูกชายไทยเจ้าของบาร์ภายในซอยสุขุมวิท 22 ชักปืนลูกซองออกมาขู่กลางร้านต่อหน้านักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ สร้างความหวาดกลัวและแตกตื่นเป็นอย่างมาก
จากการสืบสวนของ กก.สืบสวน บก.ตม.1 พบว่า เจ้าของบาร์ดังกล่าวชื่อนายรัก (ขอสงวนนามสกุล) เปิดบาร์อยู่กลางซอยสุขุมวิท 22 มีพฤติการณ์ชื่นชอบอาวุธปืน มักจะโพสต์ภาพคู่กับอาวุธปืนลงเฟซบุ๊กบ่อยครั้ง มีทั้งปืนลูกซองยาว ปืนพกสั้น 9 มม. , 11 มม. และ ปืนลูกโม่ .38 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีหนังสือขอตรวจสอบข้อมูลทะเบียนอาวุธปืนส่วนบุคคล ไปยังสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รับคำตอบว่า นายรัก ไม่เคยได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (ป.4) แต่อย่างใด มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายรัก ได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490
เจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบาร์ดังกล่าว ภายในซอยสุขุมวิท 22 ไม่พบตัวนายรัก แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจรู้ตัวและหลบไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าถึงตัวบ้าน เนื่องจากมีรถจักรยานยนต์ที่มีชื่อนายรัก เป็นผู้ครอบครองจอดทิ้งไว้หน้าร้าน มีเพียงนางขิม (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตนเป็นผู้พักอาศัยบริเวณชั้น 2 ของร้านซึ่งเป็นที่พัก เป็นผู้นำการตรวจค้นไปถึงห้องนอนชั้น 3 ของนายรัก
พบว่าภายในตู้เสื้อผ้ามีตู้นิรภัยซึ่งไม่ได้ล็อกไว้ ด้านในพบ กระสุนปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ NRC AMMUNITION จำนวน 41 นัด, กระสุนปืนลูกชอง เบอร์ 12 ยี่ห้อ SELLIER & BELLOT จำนวน 21 นัด, กระสุนปืนลูกชอง เบอร์ 12 ยี่ห้อ STERLING ชนิดลูกโดด จำนวน 7 นัด, กระสุนปืนขนาด .22 ยี่ห้อ SELLIER & BELLOT จำนวน 48 นัด, กระสุนปืนขนาด .22 ยี่ห้อ CCI จำนวน 33 นัด, หนังสือสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว มีนายรัก เป็นผู้เช่า
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นยังพบปืนไฟแช็คที่มีลักษณะภายนอกเหมือนอาวุธปืนจริง และไม้เท้าแบบมีมีดซ่อนภายใน ที่บริเวณชั้น 1 อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำบันทึกการตรวจค้น/ตรวจยึด ของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป