svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“ปิดJob-Shopทิพย์” ทลาย 9 เครือข่ายหลอกลวงออนไลน์

08 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจไซเบอร์ แถลงยุทธการ "ปิด Job-Shop" ตอนที่ 1 รวบได้ 26 ผู้ต้องหาทลายได้ 9 เครือข่าย จากเป้าหมาย 14 เครือข่าย 53 หมายจับ กลุ่มมิจฉาชีพหลอกขายสินค้าและบริการผ่านโลกออนไลน์ สร้างความเสียหายกว่า 35 ล้านบาท

วันที่ 8 มีนาคม 2566  กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)  พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. แถลงผลปฏิบัติการตามยุทธการ “ปิด JOB - SHOP ทิพย์” จับกุมขบวนการหลอกขายสินค้าและบริการผ่านโซเชียลมีเดีย

สืบเนื่องจาก ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บช.สอท. ได้รับแจ้งเรื่องการหลอกลวงซื้อขายสินค้าและบริการ การหลอกให้ร่วมลงทุนรูปแบบต่างๆ ลักษณะเมื่อจ่ายเงินแล้ว ไม่ได้รับสินค้าและบริการตามที่ตกลงไว้ มีประชาชนตกเหยื่อมากกว่า 7 หมื่นเคส ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ไปจนถึง 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ข้อมูลดังกล่าว บช.สอท.นำมาวิเคราะห์จนสามารถระบุ ผู้กระทำผิดได้แล้ว 35 เป้าหมาย นำมาสู่การเปิดปฏิบัติการจับกุมขบวนการหลอกขายสินค้าออนไลน์ อีพี 1 กำหนดเป้าหมายทั้งหมด 14 เครือข่าย 53 หมายจับ ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ทั้งนี้ ผลปฏิบัติการตามยุทธการ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 26 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ต้องหาระดับตัวการของ 9 เครือข่าย รวมทั้งได้ตรวจยึดของกลางเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือที่ใช้ในการกระทำความผิด พร้อมทั้งอายัดเงินในบัญชีธนาคารของผู้กระทำผิดและบัญชีม้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำไปขยายผล และจะมีการปฏิบัติการต่อไปอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ 14 เครือข่ายเป้าหมาย ที่มีการออกหมายจับนั้น แบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ 

1. การหลอกลวงซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภค 

2. การหลอกลวงซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร

3. การหลอกลวงร่วมลงทุนธุรกิจสกุลเงินดิจิทัล และการลงทุนรูปแบบต่างๆ 

4. การหลอกลวงซื้อขายบัตรกำนัล การบริการการท่องเที่ยว และรับจ้างทวงหนี้ 

เครือข่ายมิจฉาชีพเหล่านี้ ทำให้ประชาชนกว่า 500 รายที่ตกเป็นเหยื่อ ได้รับความเสียหายตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักล้าน รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท โดยเครือข่ายที่สร้างความเสียหายมากที่สุด คือ เครือข่ายรับจ้างทวงหนี้กลุ่มแชร์ ซึ่งมิจฉาชีพจะอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายอยากได้เงินคืน เข้าไปหลอกลวงว่าจะรับจ้างทวงเงินให้ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้จริง ผู้เสียหายจึงถูกหลอกถึง 2 เด้ง

ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จะยื่นเรื่องต่อกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อเสนอให้ศาลมีคำสั่งปิดกั้นเพจหรือเว็บไซต์ของกลุ่มมิจฉาชีพที่มีการหลอกลวงประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย

logoline