7 มีนาคม 2566 ความคืบหน้าคดี "Forex-3D" จากกรณี นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ฝากไว้ให้คิด..คนสีเทา สีดำ เกี่ยวข้อง ยุ่งเกี่ยว มีส่วนร่วม ได้ประโยชน์ใดๆ จากการกระทำความผิด มักจะอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เรื่องเงียบ และหาทางเคลียร์ด้วยอำนาจและเงินตรา..เพราะถ้าทำให้เรื่องตนเองเป็นกระแสจับตามอง ยิ่งจะถูกขุดค้นจนเจอเรื่องราวเลวๆ อีกนับไม่ถ้วน..ที่นิ่งเงียบไม่ใช่เพราะยอมรับว่าทำผิด แต่เมื่อหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้ก็ต้องไปให้สุด..ให้มันรู้ไปว่าบ้านเมืองเราจะอยู่ภายใต้ ‘อุ้งตีน’ ของข้าราชการและนักการเมืองเลวๆ !!”
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (7 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงรุ่นใหญ่ เข้ายื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อขอทราบความคืบหน้าคดีฟอกเงิน เกี่ยวพันธ์คดี "Forex-3D" ที่ตนเองนั้นถูกแจ้งข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"ปราปต์ปฎล" ระบุว่า ตนเองถูกแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับ "Forex-3D" มานาน 5 เดือนแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ส่งผลกระทบโดยตรงทำให้ถูกยกเลิกงาน ชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัวพัง บ้านกำลังจะถูกยึด
นายปราปต์ปฎล กล่าวว่า ตนเองมีข้อสงสัยว่าที่ผ่านมา นายธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขา รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้สัมภาษณ์กับสื่อเสมอว่า "ดารา ป." ไม่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ในคดี Forex-3D ซึ่งตนเองก็สงสัยว่าในเมื่อไม่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง ทำไมจึงถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นเพราะตนเองได้เคลื่อนย้ายทรัพย์ เป็นรถแอสตันมาร์ตันของแฟนสาว ซึ่งขณะนั้นยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่ยังใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน และตนเองก็เคยชี้แจงเรื่องนี้ไปแล้ว
ต่อมาแฟนสาวของตนเองถูกจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหา “ฉ้อโกง” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ต่อมาวันที่ 21 สิงหาคม เพื่อนผู้หญิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแฟนสาว ได้ติดต่อมาหาตนเองว่ารู้จักกับที่ปรึกษาของเลขารัฐมนตรี ที่สามารถช่วยเหลือได้ จึงนัดให้มีการพูดคุยเจรจากัน ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านเลียบด่วนรามอินทรา ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
"ปราปต์ปฎล" ระบุว่า วันที่ไปพูดคุยมีตนเอง เพื่อนสนิทของแฟนสาว แฟนของเพื่อนคนนี้ และตัวทนายชื่ออักษรย่อ ฮ. ซึ่งอ้างตัวเป็นที่ปรึกษาเลขารัฐมนตรี ใช้เวลาพูดคุยกว่า 1 ชั่วโมง โดยมีใจความสำคัญคือทนายความคนนี้บอกว่า
“น้องเขาซวยที่ไปแต่งงานกับคนนั้น ซึ่งก็เชื่อว่าน้องไม่เกี่ยว แต่มันมีราคาของความยุติธรรมอยู่”
พร้อมเสนอตัวว่า จะสามารถช่วยทำสำนวนอ่อนลงเพื่อให้พ้นคดีได้ พร้อมกับเรียกเงินหลัก 10 ล้าน อ้างว่าจะไปใช้เจรจากับผู้ใหญ่
นายปราปต์ปฎล เล่าต่อว่า หลังจากสิ้นคำนั้น ตนเองอึ้ง เพราะตอนแรกคิดว่าที่มาเจรจากัน หากช่วยเหลือเป็นค่าทนาย 5 หมื่นบาท ตนเองก็พร้อมจ่าย แต่เงินจำนวนดังกล่าว ตนเองทำงานทั้งชีวิตก็หาไม่ได้ อีกทั้งไม่ต้องการจ่ายเงินให้กับการคอร์รัปชั่น ตอนนั้นถึงไม่ได้พูดอะไร ทางฝ่ายทนาย ฮ. จึงบอกให้ตนเองกลับไปคิด
จากนั้น ทนายคนดังกล่าวก็กลับไป เหลือพวกตน 3 คน นั่งคุยเรื่องดังกล่าวต่อจนถึงช่วงเย็น ก่อนแยกย้ายกลับ หลังจากแยกย้ายไม่นาน เพื่อนของแฟนสาวส่งไลน์มา ย้ำเรื่องเงินหลัก 10 ล้านอีกครั้ง ซึ่งตนเองอ่านแล้วไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่แคปทุกอย่างไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด โดยส่วนตัวก็เชื่อว่าเพื่อนผู้หญิงหวังดี และไม่ได้รู้เห็นกับการตบทรัพย์ แต่เป็นเพราะรู้จักคนและอยากช่วยจริงๆ
นายปราปต์ปฎล ยังบอกอีกว่า การที่ตนเองออกมาแฉยังไม่ได้ต้องการที่จะดำเนินคดีในข้อหาความผิดเรื่องการละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือเรียกรับผลประโยชน์ เพราะยังไม่ถึงเวลา และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ก่อน พร้อมยืนยันว่า การออกมาเรียกร้องวันนี้ ไม่ใช่การขู่เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่เป็นเพียงการเรียกร้องความยุติธรรมให้ตนเอง และแฟนสาว โดยตนเองต้องการให้แฟนสาว ได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้คดี เนื่องจากจะได้รวบรวมพยานหลักฐานต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ เพราะตอนนี้ศาลยังไม่ตัดสิน ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อไปยัง ทนาย ฮ. สอบถามข้อเท็จจริง โดย "ทนาย ฮ." บอกว่า สิ่งที่ ปราปต์ปฎล พูดออกมานั้น เชื่อว่า จะต้องเป็นตนเอง พร้อมชี้แจงว่า มีการนัดหมายจริง ที่โรงแรมดังกล่าว แต่คุยกันที่ห้องอาหารอย่างเปิดเผย ไม่ได้เป็นการแอบพูดคุย ซึ่งการเจรจา เพื่อนของกี๋ เป็นคนติดต่อมาหาตนเองให้ ไปช่วยทำคดีดังกล่าว
"ทนาย ฮ." ระบุว่า การพูดคุยมีการคุยกันเรื่องเงินจริง แต่ไม่ได้บอกจำนวน ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินค่าทนายความในการทำคดีดังกล่าว และค่าวิชาชีพ รวมถึงค่าดำเนินการต่างๆ และยืนยันว่าไม่มีการกล่าวอ้างถึง เลขารัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรี ว่าจะสามารถช่วยเคลีย์คดีได้ และยังยืนยันว่า ตนเองไม่ได้พูดคำว่า “ความยุติธรรมมีค่าที่ต้องจ่าย”
ส่วนเรื่องแชท "ทนาย ฮ." ยันว่าไม่ได้ไปพิมพ์ในแชทกับเพื่อนกี๋อีก หลังจากนั้นตามที่ปราปต์ปฎลพูด