26 ธันวาคม 2565 เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความชื่อดัง พร้อม นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการ ส่งเสริม สิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ พาผู้เสียหายกว่า 100 คน เข้าพบ พ.ต.ต.วรเดช ชมภูพันธ์ รอง ผกก.4 (สอบสวน) บก.ปอศ.
เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ บริษัท JN RICH GROUP ที่หลอกลวงให้ร่วมลงทุนธุรกิจ โฆษณาโปรโมตและรีวิวแอพพลิเคชัน ทุกประเภท ผ่านทางออนไลน์ ได้ค่าตอบแทนสูง เบื้องต้นมีผู้เสียหาย กว่า 5,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้าน
ทนายไพศาล กล่าวว่า คนร้ายกลุ่มนี้ ใช้ช่องทางเฟซบุ๊ก เชิญชวนประชาชนมาลงทุนโฆษณาโปรโมต และรีวิวแอปพลิเคชันออนไลน์ เช่น ยูทูบ (youtube) อินสตาแกรม (instagram) เมื่อผู้เสียหายสนใจลองลงทุนดู ช่วงแรกได้กำไรจริง จึงลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ช่วงหลังกลับถอนเงินออกไม่ได้ จึงมาร้องตนให้พามาเข้าแจ้งความดังกล่าว
ทนายไพศาล กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบ บริษัท JN RICH GROUP พบว่า เป็นของนายทุนชาวจีน ที่ใช้นอมินีเป็นคนไทย ในการสวมรอยจดทะเบียน มาเปิดบริษัทได้ 2 ปี โดยใช้เงินในการจดทะเบียน 2 ล้านบาท งบการเงินมีไม่ถึงหลักหมื่น แต่บริษัท ระดมทุนถึงได้หลักพันล้าน และจากการตรวจสอบแล้วบริษัทนี้ ไม่มีที่ตั้งและตัวตนอยู่จริง แต่มีแม่ข่ายเป็นคนไทยด้วยกัน เบื้องต้นทราบมาว่าเจ้าของบริษัทได้หนีไปประเทศกัมพูชาแล้ว
ด้าน นางหญิง อายุ 50 ปี ข้าราชการบำนาญ ผู้เสียหาย ตัวเองรู้จักการลงทุนกับญาติในหมู่บ้านเดียวกัน เห็นว่าทำงานแล้วได้เงินจริง ตนจึงสนใจ เพราะอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร จึงได้ไปซื้อโทรศัพท์และเปิดบัญชีไว้เผื่อทำงาน โดยเชื่อสนิทใจว่า การทำงานจะได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า เพราะมีข้อมูลเอกสารทุกอย่างครบ คนที่ให้การแนะนำก็น่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจลงทุนไปเริ่มแรก 1 แสนบาท และทิ้งโทรศัพท์ให้แม่ทีมเอาไปดำเนินการทั้งหมด โดยที่ตัวเองแค่โอนเงินจ่ายเท่านั้น เหตุที่ทำแบบนี้เพราะว่าเชื่อในคำพูดของแม่ทีมมารู้อีกทีก็สูญเงินไปกว่า 10 ล้านแล้ว
ด้าน นายเฉลิม เดชสงคราม อายุ 33 ปี กล่าวว่า ตัวเองเป็นนายหน้าและเป็นผู้เสียหายด้วย ตัวเองเริ่มจากการเป็นลูกค้า ก่อนหลังจากนั้นก็มีแม่ทีมชักชวนให้มาช่วยเป็นแอดมิน รับเรื่องและส่งงานให้กับลูกข่ายทุกคน โดยเริ่มแรกให้ค่าตอบแทน 500 บาท ก่อนจะขยับขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนเป็น 1000 บาท โดยหน้าที่หลักๆคือช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการทำงานให้แก่ลูกค้า และส่งเรื่องให้กับแม่ทีมทุกทีม และตนก็จะได้ค่าหักเปอร์เซ็นต์ หากสามารถชวนคนมาร่วมลงทุนได้ ตอนนี้ตนก็เสียหายกว่า 70,000 บาท ส่วนตัวไม่คิดว่า นี่คือการหลอกลวง เนื่องจากเงินเข้าออกตลอดเวลา จนมาเจอกับตัวเองเพราะเงินที่ว่าจ้างไม่สามารถถอนออกมาได้และถูกหลอกให้ทำงาน แม้แต่หน้าแม่ข่ายตัวเองก็ไม่เคยเห็น
ด้าน พนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องพร้อมสอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป